มาร่วมเดินทางไปกับฉันในโลกที่ไม่ธรรมดา

-

วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.45 น.

  11 ตอน
  1 วิจารณ์
  10.55K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 08.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ตอนพิเศษ รถไฟแห่งความทรงจำ1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
 
ตอนพิเศษ รถไฟแห่งความทรงจำ 
 
 
 
          สวัดดีครับ ผมชื่อ ทานากะ โชอิจิ ยินดีที่ได้รู้จักถ้าถามว่าทำไมผมต้องแนะนำตัวเหรอ 
 
          เพราะวันนี้เป็นวันพิเศษของผมยังไงละ ผมเลยอยากทำให้อารมณ์มันเป็นวิชาการๆขึ้นมา มันใช้เหรอมันไม่น่าจะเกี่ยวกันนี้น่ะ ฮ่ะฮ่ะ ฮ่ะ 
 
          ถ้าถามว่ามันพิเศษยังไง หึหึ เพราะวันนี้ผมจะได้ไปเจอสาวสุดน่ารักคนนึง เธอก็คือไอดอลสาวสุดน่ารักที่ตอนนี้กำลังมาแรงสุดๆในยุคนี้เลยยังไงล่ะ ชื่อของเธอก็คือ ฮิโตมิจังเองน่ะ ยังไงล่ะ 
 
          กว่าผมจะได้บัตรนี้มาคลอบคลอง ผมต้องอดข้าวออมเงินเพื่อเอามาซื้อบัตรโดยเฉพาะ ที่ผ่านมามันอาจยากลำบากที่ต้องอดข้าว แต่วันนี้ผมกับรู้สึกมีความสุขสุดๆ ผมคิดอะไรในใจพลางหยิบบัตรที่มีพลังความสำเร็จอัดแน่นอยู่เต็มเปลี่ยมขึ้นมาดู 
 
     ''มันช่างเลอค่าอะไรอย่างนี้น่ะ'' 
 
          ถึงจะเอาเพชรเอาทองมาแรกผมก็ไม่ยอม ถึงจะเป็นบัตรแบบเดียวกันผมก็ไม่ยอม เพราะบัตรใบนี้เท่านั้นที่ผมใช้เงินที่อู่ส่าลำบากลำบนเก็บออมมาแทบตายเพื่อซื้อมันมา 
 
          ''ขอโทดน่ะค่ะ ตรงนี้ว่างอยู่ขอนั้งได้ไหมค่ะ'' 
 
มีผู้หญิงใส่แว่นดำแต่งตัวปกปิดไม่น่าไว้ใจมาขอนั้งฝั่งตรงข้าม 
 
          ''มันว่างอยู่ เชิญเลยครับ'' 
 
          เอ๊ะ!!! นี่ผมตัดสินใจพูดออกไปแบบนั้นแล้วสิน่ะ จริงๆก็ระแวงแต่ก็ช่างเถอะ สิ่งสำคัญก็คือน้ำใจอะน่ะ สุดท้ายก็ต้องแยกย้ายอยู่ดี ฮิ่ ฮิ่ ฮิ่ 
 
          ''บัตรใบนั้นคุ้นๆน่ะค่ะ คอนเสิร์ตอะไรเหรอค่ะ'' 
 
เธอถามผมแล้วยิ้ม 
 
          ''บัตรนี้น่ะ เป็นบัตรคอนเสิร์ต ฮิโตมิจังเองน่ะ หน่ะคับ'' 
 
          ผมพูดโดยที่ส่งลอยยิ้มแห่งความขี้อวดออกไป แต่ผมเดาไม่ได้เลยว่าเธอคิดอะไรอยู่เพราะเธอใส่แว่นดำเลยมองใบหน้าไม่ชัดเจน 
 
          ''คุณชอบฮิโตมิจังเหรอค่ะ'' 
 
          ผมเกาแก้มแล้วตอบไปว่า 
 
          ''แน่นอนอยู่แล้วคับ ผมต้องอดทนออมเงินอย่างยากลำบากเพื่อจะได้บัตรนี้มาเลยล่ะน่ะ'' 
 
          จะถามทำไมน่ะยุ่งจังเลย 
 
          ''ฉันว่าเขาออกจะเชยๆ ไม่เห็นน่าสนใจเลย'' 
 
พอผมได้ยินแบบนั้นผมก็ลุกขึ้นยืนทันที 
 
          ''คุณหน่ะไม่มีทางเข้าใจหลอกว่า กว่าฮิโตมิจังจะก้าวมาถึงขั้นนี้ได้ กว่าเธอจะได้เป็นไอดอลสุดน่ารักเธอต้องผ่านความยากลำบากอะไรมาบ้าง เธอต้องเจออุปสรรคมาตั้งมากมายแต่เธอก็ไม่เคยยอมแพ้ แล้วอย่างคุณหน่ะ ทำอะไรได้บ้าง เอาแต่พูดว่าคนที่ประสบความสำเร็จว่าเชยเคยคิดบ้างไหมว่าคุณเทียบกับฮิโตมิจังไม่ติดหน่ะคับ!!!'' 
 
ผมพูดโดยมีอาการน้ำตาคลอเพราะซึ้งในความพยายามของฮิโตมิจัง 
 
          ''อย่างงั้นเองเหรอค่ะ'' 
 
          จู่ๆคนรอบๆก็หันสายตามารวมอยู่กันที่จุดเดียว แล้วผมก็โค้งคำนับขอโทษทั้งสามทิศทาง ซักพักเธอที่นั้งอยู่ข้างหน้าผมก็ถอดแว่นออกเผยให้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้ม 
 
          ''แล้วอย่างฉันพอจะเป็นเพื่อนกับคุณได้ไหมค่ะ'' 
 
เธอยิ้มอย่างอารมณ์ดี แต่ผมกับรู้สึกช๊อค 
 
          ''ฮ ฮะ..ฮิโตมิจังเองน่ะ..เหรอ'' 
 
พอเธอได้ยินผมถาม เธอก็ตอบกลับมาว่า 
 
          ''ใช้ค่ะ ฉัน มาซาโนะ ฮิโตมิค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ'' 
 
แล้วเธอก็ยื่นมือมาให้ผม ผมที่กำลังยืนตัวแข็งพลางขยับสายตามามองมืออันบอบบางและผมก็มีอาการหน้าแดง
 
          ''ดะ..ได้..เหรอคับ จับมือได้เหรอคับ'' 
 
พอผมถาม ฮิโตมิจังที่ยิ้มอยู่ก็ตอบว่า 
 
          ''ได้สิค่ะ ถ้าเป็นคุณ...เอ่อ''    
 
          'โชอิจิ! ทานากะ โชอิจิ คับ ขอโทษที่แนะนำตัวช้าคับ'' 
 
          แล้วผมก็ก้มหัวให้ พอเธอเห็นผมทำอย่างงั้นก็เอามืออีกข้างมาปิดปากพลางหัวเราะเบาๆโดยที่มืออีกข้างยังยื่นมาหาผมอยู่ 
 
          ''ฉันก็เมื่อยเป็นน่ะค่ะ อย่าให้ผู้หญิงต้องรอสิค่ะ'' 
 
พอผมได้ยินแบบนั้นก็รีบเอามือไปจับแล้วพูดขึ้นมาว่า 
 
          ''ขอประธานโทษด้วยครับ ผมจะระวังครับ!!'' 
 
          จากนั้นพวกเราก็นั้งคุยอะไรกันไปเรื่อยเปลื่อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตลกๆที่เคยเจอ เรื่องที่เธอแอบหนีมาโดยทิ้งจดหมายเอาไว้ แล้วก็เรื่องที่เลือกมานั้งใกล้ผม 
 
          ''ฉันเห็นคุณถือบัตรคอนเสิร์ตของฉันแล้วก็ทำหน้าตามีความสุขแบบสุดๆ ฉันไม่เคยเจอใครที่ทำตัวแบบนี้เลยค่ะ'' 
 
เธอพูดแล้วก็หัวเราะชอบใจ ผมที่ได้รู้ถึงความคิดที่เธอมีต่อผมแบบนั้น ก็รู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก 
 
          ''เรามาแลกเมลกันไหมค่ะ'' 
 
ผมที่ได้ฟังแบบนั้นก็ตกใจ 
 
          ''แลกเมลเหรอคับ มันจะดีเหรอคับ ผมมันแค่คนธรรมดาๆไม่ได้เหมาะสมกับคุณฮิโตมิเลยน่ะคับ'' 
 
พอผมพูดออกไปแบบนั้นฮิโตมิก็ทำหน้ามุ่ยแล้วก็พูดขึ้นมาว่า 
 
          ''ฉันก็เป็นคนธรรมดาๆเหมือนคุณนั้นแหล่ะค่ะ อยากจะมีเพื่อนบ้างมันแปลกเหรอค่ะ'' 
 
          พอผมได้ยินแบบนั้นก็คิดในใจ ฉันหน่ะเหรอจะได้เป็นเพื่อนกับฮิโตมิจัง ไม่จริงใช่ไหม นี้มันความฝันหรือภาพหลอนหรือป่าว 
 
          ''โอ้ยยยยยย!!!!'' 
 
ผมสะดุ้งตกใจเพราะอยู่ดีๆก็มีคนมาหยิกที่แขนผม 
 
          ''กำลังคิดว่าตัวเองฝันอยู่ใช้ไหมล่ะค่ะ ฮิ่ฮิ่'' 
 
พอผมรู้ว่าโดนฮิโตมิจังหยิก ผมก็รู้สึกเจ็บน่ะแต่มันกลับรู้สึกดีมากกว่า 
 
          ''เอาแบบนี้ไหมค่ะ พอไปถึงคอนเสิร์ตเราไปหาอะไรทานกันก่อนไหมค่ะ กว่าจะถึงเวลาสแตนบาย อีกตั้งหกชั่วโมงแหน่ะ'' 
 
          หือออ!...ผมมองหน้าสวยๆของเธอพลางคิดในใจ ฉันเนี่ยน่ะ กะ....กินข้าวกับฮิโตมิจัง ไม่จริงนา ไม่จริงใช่ไหมมมผมเนี่ยยยยยน่ะ 
 
          ''ฮึบบบบ!!'' 
 
แล้วจู่ๆ ฮิโตมิจังก็กระโดดมานั้งข้างๆผมพลางหยิบหูฟังอีกข้างส่งมาให้ผมแล้วก็พูดขึ้นมาว่า 
 
          ''นี้เป็นเพลงของฉันเองที่จะเอามาร้องในคอนเสิร์ตนี้ ไหนๆก็มีเพื่อนแล้วมาฟังกันเถอะ'' 
 
แล้วเราสองคนก็นั้งฟังเพลงด้วยกันโดยที่ใส่หูฟังไว้คนล่ะข้าง 
 
 
****
 
          ผมลืมตาตื่นเพราะรู้สึกเหมือนรถไฟจะหยุด พลางมองออกไปจากหน้าต่างเพื่อดูรอบๆแล้วมองมาที่ไหล่ข้างขวาของตัวเองก็พบว่ามีคนนอนเอาหัวพิงมาที่ไหล่ของผม 
 
          ''หืมมม'' 
 
          ผมตกใจจนทำตัวไม่ถูก จะปลุกดีหรือจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หรือจะค่อยๆหนีออกมาแต่ทันใดนั้นฮิโตมิก็ลืมตาตื่นขึ้นพลางเอามือขยี้ตา 
 
          ''เผลอหลับไปเหรอ'' 
 
แล้วผมที่กำลังหน้าแดงจนควันออกหูก็พูดขึ้นมาว่า 
 
          ''ถึงแล้วล่ะคับคนสวย...ป..ไปกันเถอะคับ'' 
 
แล้วฮิโตมิจังก็พูดขึ้นมาว่า 
 
          ''ถึงแล้วเหรอค่ะ...งั้นไปกันเถอะค่ะ'' 
 
เราสองคนเดินออกมาจากสถานีรถไฟ โดยที่คุณฮิโตมิแต่งตัวปกปิดตัวเองไว้ 
 
          ''เราไปหาอะไรทานกันเถอะค่ะ ค่าอาหารเหดียวฉันจัดการเองค่ะไม่ต้องเป็นห่วง'' 
 
พอผมได้ยินแบบนั้นก็พูดขึ้นมาว่า 
 
          ''ม...ไม่ได้หลอกน่ะคับ ไม่มีผู้ชายที่ไหนเขาปล่อยให้ผู้หญิงเลี้ยงข้าวกันหลอกน่ะคับ'' 
 
พอฮิโตมิจังได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าตาน่ารักแบบอารมณ์ดีซักแปปเธอก็พูดขึ้นว่า 
 
          ''งั้นเราจ่ายคนล่ะครึ่งดีไหมค่ะ'' 
 
ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ตอบกลับไปว่า 
 
          ''แบบนั้นก็ดีน่ะคับ ฮ่ะ ฮ่ะ'' 
 
ไปๆมาๆกลายเป็นว่าตัวผมนั้นได้มานั้งกินข้าวกับฮิโตมิจัง หึหึ ผมได้แต่กระซิปในใจว่า 
 
          ''อย่างกับได้มาเดทเลยน่ะเรา'' 
 
          พอผมคิดแบบนั้นก็หน้าแดงลงไปถึงคอ พอทานข้าวเสร็จเราสองคนก็ไปเที่ยวเล่นตามจุดต่างๆแล้วฮิโตมิจังก็พาผมไปร้านไอศครีมร้านเล็กๆใกล้ๆสวนเดินเล่น 
 
          ''คุณลุงค่ะเอาสองอันค่ะ'' 
 
แล้วลุงก็ส่งไอศครีมสองอันมาให้ แล้วฮิโตมิจังก็ยื่นอีกอันมาให้ผม 
 
          ''มันจะดีเหรอคับ'' 
 
ผมถามแล้วฮิโตมิจังก็พยัคหน้าแล้วบอกว่า 
 
          ''ฉันเลี้ยงเองๆ'' 
 
พอผมได้ยินแบบนั้นก็รับไอศครีมอีกอันที่ฮิโตมิจังส่งมาให้พลางพูดขึ้นมาว่า 
 
          ''งั้นเหรอๆขอบคุณน่ะคับ'' 
 
          ผมได้แต่คิดในใจว่า  (ไม่จริง!!! ผมที่อยู่ในใจกำลังถือไอศครีมโคลนแล้วตัวสั่น ตอนนี้ผมอาจจะกลายผู้ชายที่กำลังโชคดีมาก แต่ทำไมน่ะปกติคนอย่างฉันไม่น่าจะมีผู้หญิงคนไหนอยากเข้าใกล้นี่นา)  ผมมองฮิโตมิจังที่กำลังทานไอศครีมอย่างอารมณ์ดีพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปลื่อย 
 
          ''ไม่ทานเหดียวก็ละลายหมดน่ะค่ะ'' 
 
พอผมรู้สึกตัวว่าไอศครีมมันก็เริ่มละลายผมก็รีบกินมัน 
 
          ''อื้อหือ อร่อยยยย'' 
 
          ฮิโตมิจังที่ดูผมกำลังกินไอศครีมอย่างติดใจ เธอก็ยิ้มออกมา แต่จริงๆผมก็ไม่เคยคิดอยากจะกินมันหลอกน่ะ ไอศครีมเพราะรู้สึกไม่เห็นมันจะน่าสนใจตรงไหน แต่จากวันนี้ไปผมคงได้ซื้อมากินบ่อยๆแล้วล่ะ 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา