มาร่วมเดินทางไปกับฉันในโลกที่ไม่ธรรมดา

-

วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.45 น.

  11 ตอน
  1 วิจารณ์
  10.55K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 08.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ตอนพิเศษ รถไฟแห่งความทรงจำ2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ณ สถานที่จัดงาน คอนเสิร์ต
 
          ''อะ ดะเหดียวสิคับ จะพาผมไปไหนน่ะคับ'' 
 
โชอิจิที่กำลังโดนฮิโตมิจังพาไปที่ๆไม่ใช้ทางเข้าหน้างาน 
 
          ''มีอะไรหรอค่ะ''
 
          ''ก็ทางนั้นมันไม่ใช่ทางเข้านี่คับ ผมต้องเข้าทางหน้างานน่ะคับ'' 
 
พอฮิโตมิจังได้ฟังคำพูดของโชอิจิก็เอานิ้วชี้มาจิ้มที่คาง 
 
          ''อย่างงั้นเองหรอค่ะ แต่ฉันจะพาคุณเข้าทางประตูหลังค่ะ'' 
 
ฮิโตมิยิ้มแล้วจึงดึงแขนของโชอิจิไป 
 
          ''ดะ เหดียวสิคับ'' 
 
แล้วเธอก็พาโชอิจิไปทางประตูหลังของสถานที่จัดคอนเสิร์ตโดยไม่สนใจว่าโชอิจิจะพูดอะไร 
 
          ''มาแล้วค่าาา ช่วยพาเพื่อนของฉันไปแต่งตัวแล้วบอกบทให้ด้วยน่ะค่ะ'' 
 
ฮิโตมิพาโชอิจิไปหาผู้ชายที่ดูท่าทางเจ้าระเบียบ 
 
พอชายที่ดูเจ้าระเบียบเห็นโชอิจิก็เอานิ้วขึ้นมาดันแว่นพร้อมมองมาที่โชอิจิตั้งแต่หัวจรดเท้า 
 
          ''จะให้ผู้ชายคนนี้มาแทนงั้นเหรอ มันจะไม่ทำให้เสียงานหรือยังไงกันหน่ะ'' 
 
เขาพูดด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะพอใจ 
 
          ''เขานี้แหล่ะ ที่เหมาะสมที่สุด เชื่อฉันเถอะค่ะ'' 
 
พอฮิโตมิพูดไปแบบนั้นเขาก็พูดกลับด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจมากขึ้น 
 
          ''มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ! ที่หนีออกไปเที่ยวเล่นแล้วยังพาผู้ชายที่ไม่ได้มีความเหมาะสมมาแบบนี้ โดยรวมแล้วดูเป็นคนที่ห่วยแตกสิ้นดี'' 
 
          ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็งุนงงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วทำไมผมถึงต้องมาเกี่ยวด้วยแล้วยังมาด่าผมอีก มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ แต่ก็ทำได้แค่เงียบ 
 
          ''เธอชักจะเอาแต่ใจมากขึ้นทุกทีๆแล้วน่ะ พอดังแล้วอย่าให้มันได้ใจมากนักน่ะ ใครกันที่พาเธอมาถึงขนาดนี้หัดฟังคนอื่นเขาบ้างสิ!!'' 
 
พอผมได้ยินแบบนั้นก็ทิ้งอารมณ์ทุกอย่างออกไปแล้วเดินเข้าไปคว้าคอเสื้อของไอแว่นนั้น 
 
          พึบ!!!! 
 
          ''ใครกันที่เอาใหญ่ คุณจะรู้อะไร ขนาดผมแค่ได้อยู่กับเธอไม่นานก็ยังรู้เลย'' 
 
ไอแว่นที่โดนผมกระชากคอเสื้ออยู่มันก็พูดขึ้นว่า 
 
          ''ไอเศษสวะ ปล่อยมือโสโคลกๆออกจากสูทของฉัน'' 
 
          คนที่กำลังมองเหตุการณ์อยู่นั้นมีเป็นสิบ เขาทุกคนคือทีมงานในส่วนต่างๆของงานนี้ ทุกคนพลางมองมาทางผมด้วยความไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดเรื่องอะไรขึ้น ฮิโตมิที่ยืนมองด้วยอารมณ์ที่ทำอะไรไม่ถูกก็ตัดสินใจเดินเข้ามาหาผม 
 
          ''โชอิจิ ปล่อยเขาน่ะ!'' 
 
ผมมองหน้าฮิโตมิแล้วจึงปล่อยมือ 
 
          ''ฉะ ฉันขอโทษน่ะ ฮิโตมิจัง'' 
 
ฮิโตมิมองหน้าผมแล้วบอกว่า 
 
          ''ไม่เป็นไร'' 
 
เธอหันไปหาไอแว่นแล้วบอกมันว่า 
 
          ''ช่วยดูแลเขาแทนฉันที ถือว่าฉันขอร้อง'' 
 
ไอแว่นนั่นมองหน้าฮิโตมิแล้วเอานิ้วชี้ดันแว่นแล้วพูดว่า 
 
          ''ยังไงก็คงหาคนไม่ทัน ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาฉันไม่รู้ด้วยน่ะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความเอาแต่ใจของเธอคนเดียว'' 
 
พอเจ้าแว่นบ้านั่นพูดแบบนั้นก็หันมาทักผม 
 
          ''นายหน่ะ ชื่ออะไร'' 
 
ผมก็ตอบไปว่า 
 
          ''โชอิจิ.. ทานากะโชอิจิ'' 
 
          ''งั้นเหรอ ตามฉันมา'' 
 
          ''คะ คับ'' 
 
จากนั้นเขาก็พาผมเดินออกจากห้องแล้วพาผมเข้าไปที่อีกห้องนึง 
 
          ''เอ่อ..คือ'' 
 
          ''มีอะไร ถ้าสงสัยอะไรก็ถามมาซ่ะตรงนี้'' 
 
ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็เกิดอาการกลัวนิดๆขึ้นมา 
 
          ''กำลังจะพาผมไปไหนเหรอคับ'' 
 
เจ้าแว่นก็เอานิ้วชี้ดันแว่นแล้วเอ่ยมาว่า 
 
          ''จะพานายไปเปลี่ยนชุดหน่ะ ตามเข้ามา'' 
 
          ''ปละ..เปลี่ยนชุด ทำไมต้องเปลี่ยนชุดด้วยล่ะคับ'' 
 
พอเจ้าแว่นได้ยินแบบนั้นก็หัดมามองผม 
 
          ''นายคิดว่าชุดของนายมันมีค่าพอที่จะให้ใส่อย่างงั้นเหรอ'' 
 
แล้วเขาก็เอามือมาดึงคอเสื้อของผม 
 
          ''ถ้าเกิดว่านายทำให้งานนี้ต้องเละรับรองเลย..ว่าฉันจะไม่ให้อภัยนายแน่'' 
 
ผมมองตาเขาที่กำลังโมโหแล้วตัดสินใจพูดกลับไป 
 
          ''ผ..ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนแน่นอนคับ'' 
 
          ผมบอกออกไปแบบนั้นทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าทำไมต้องดึงผมมาที่นี่ ผมสับสนไปหมด 
 
          ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ผมจะวิ่งออกไปเลยดีไหม หรือจะชกหน้าไอหมอนี่ซักที แต่พอคิดอะไรแบบนั้นมันก็ทำให้ผมนึกถึงใบหน้าของฮิโตมิจังที่กำลังมองผมด้วยความไว้ใจ 
 
          ผมได้แต่คิดอะไรเรื่อยเปลื่อยแล้วก็เดินเข้าไปในห้องที่อยู่ข้งหน้าผม พอเปิดประตูมา 
 
          ''โหหห!!'' 
 
ผมถึงกับตกใจเมื่อเห็นของที่อยู่ในห้องนี้ มันมีเสื้อผ้ามีชุดแฟชั้นต่างๆมากมายแขวนเรียงไว้เพียบ 
 
          ''☆คนนี้หน่ะหรอ ที่จะมาแทนหน่ะ'' 
 
          มีผู้ชายท่าทางไม่ใช่ผู้ชายเดินเข้ามา เขาใส่ชุดรัดๆ ทรงผมเหมือนไอศครีมย้อมสีผมเหมือนขนมสายไหมหลายๆสี แล้วเจ้าแว่นก็พูดขึ้นมาว่า 
 
          ''ฝากจัดการให้ด้วยหล่ะ เอาให้ดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้'' 
 
พอเจ๊คนนั้นได้ยินก็พูดขึ้นว่า 
 
          ''☆เจ้าหนู เธออายุเท่าไหร่ แล้วชื่ออะไร'' 
 
ห๊ะ...จะถามทำไมกันน่ะ 
 
          ''ผะ..ผมชื่อ ทานากะโชอิจิ อายุ 19 ปี'' 
 
          ''☆งั้นเองหรอ กำลังจะเข้าเรียนต่อที่มหาลัยสิน่ะดีจังเลยน่ะเด็กๆเนี่ย'' 
 
เขาเอาหน้าเข้ามามองผมใกล้ๆแล้วพูดว่า 
 
          ''☆แบบนี้คงไม่ยากหลอก จัดทรงนิดๆหน่อยๆ ก็เก๋แล้วหล่ะ'' 
 
พอเจ้าแว่นได้ยินแบบนั้นก็พูดขึ้นมาว่า 
 
          ''งั้นก็ฝากด้วยหล่ะแมร์'' 
 
          ''☆วางใจเดี๊ยนได้เลยน่ะ'' 
 
พอเจ้าแว่นได้ฟังแบบนั้นก็เดินออกไปจากห้อง 
 
          ''☆เอาหล่ะไหนดูซิ ก่อนอื่นก็ต้องเริ่มจากทรงผมหล่ะน่ะ'' 
 
พอผมที่ได้ยินแบบนั้นก็พยัคหน้าแบบงงๆ 
 
          ''☆เธอเนี่ยไว้ผมเผ้าลุงรังไม่เป็นทรงเอาซ่ะเลยน่ะ บุคลิกมันก็เลยดูแย่หน่ะ'' 
 
แล้วเขาก็เอามือมาเปิดผมหน้าของผมที่มันปิดหน้าปิดตาผม 
 
          ''☆แหม่หน้าตาดีทีเดียวเลยน่ะถ้าจับมาแต่งนิดหน่อยต้องได้เป็นดาราดังได้แน่ๆ หนูฮิโตมิก็ตาถึงน่ะเนี่ยไม่อยากจะเชื่อว่าจะเลือกได้ถูกคน☆'' 
 
ผมที่ได้ฟังแบบนั้นก็เหมือนจะดีใจอะน่ะ แต่ไม่เคยจะมีสาวคนไหนยอมเข้าใกล้ผมบ้างเลย ดีใจไปก็เท่านั้นแหล่ะ 
 
          ''☆มาเริ่มกันเลยน่ะ เริ่มที่ทรงผมที่มันปิดหน้าปิดตาของเธอกันก่อนเลยย☆'' 
 
ผมได้แต่นิ่งแล้วทำตามที่เจ๊บอก เพราะเขาดูใจดีกับผมมาก เอาวะขอทรงเท่ๆหน่อยเหอะ 
 
****
 
         ''แมร์ เสร็จรึยัง'' 
 
ผมที่กำลังนั้งหลับเพราะกำลังโดนตัดผมอยู่ ก็ลืมตาตื่นเพราะมีคนเปิดประตูเข้ามา 
 
          ''☆ใกล้แล้วล่ะ'' 
 
แล้วเจ้าแว่นก็เดินเข้ามามองหน้าผมแล้วก็ทำท่าเหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมา 
 
          ''โชอิจิ ฉันเอาบทมาให้ อ่านซ่ะล่ะ'' 
 
พอผมได้ยินแบบนั้นก็ตกใจขึ้นมา 
 
          ''บทเหรอ!!!'' 
 
          ผมลุกขึ้นจากที่นั้งแล้วหันไปมองเจ้าแว่น ในห้องนี้มีคนอยู่สามสี่คน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพวกพี่สาวที่เขามองหน้าผมถึงต้องหน้าแดงกันด้วย 
 
          ''ก็ใช่หน่ะสิ นายต้องเล่นละครสั้นกับ ฮิโตมิ หลังจบคอนเสิร์ต'' 
 
          พอผมได้ยินแบบนั้นก็ตัวแข็ง(ฮ่ะ นี่มันอะไรกัน หลังจบคอนเสิตผมต้องเล่นละคร แต่เหดียวก่อนประเด็นหลักมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น วันนี้ผมตั้งใจเพื่อจะมาดูคอนเสิร์ต ฮิโตมิจังเองน่ะ แต่แล้วทำไมผมต้องไปเล่นละครสั้นหลังจบคอนเสิร์ตด้วย งั้นก็แสดงว่าผมก็ไม่ได้ดูคอนเสิร์ตหน่ะสิ!!) 
 
          พอผมคิดแบบนั้นผมก็หันหน้ามองหานาฬิกา มันไม่มี ในห้องนี้ไม่มีนาฬิกา แล้วผมก็หันไปถาม เจ๊ 
 
          ''ขอโทษน่ะคับ ตอนนี้กี่โมงคับ'' 
 
เจ๊ที่ได้ยินคำถามของผมก็ทำหน้างงๆ แล้วก็เอามือถือขึ้นมาดู 
 
     ''☆19.00 นะ☆'' 
 
แล้วผมก็เข้าไปหาเจ้าแว่นนั้น 
 
         "นี่คุณพาผมมาทำอะไรอยู่เนี่ย ผมมาที่นี่เพื่อมาดูคอนเสิร์ต ฮิโตมิจังเองน่ะ น่ะคับไม่ได้จะมานั้งตัดผมแบบนี้'' 
 
          ''นายพูดอะไร นายมาที่นี้เพื่อมาเล่นละครแทนคนที่ถูกยกเลิกไปไม่ใช่หรือไงกัน'' 
 
เจ้าแว่นพูดพลางเอานิ้วชี้ดันแว้น ผมรู้สึกโกรธแล้วพูดออกไปว่า 
 
          ''ใช่ซ่ะที่ไหน ผมตั้งใจจะมาดูคอนเสิร์ต ฮิโตมิเองน่ะ ตางหากหละคับ!!'' 
 
พอเจ้าแว่นได้ยินแบบนั้นก็ทำท่าคุ้นคิดแล้วพูดเบาๆว่า 
 
          ''อย่างนี่นี้เองหลอกเหรอ ดันพาคนอื่นมาโดยที่ไม่บอกเรื่องราวให้เจ้าตัวรู้ ทำอะไรเอาแต่ใจอีกแล้วน่ะ'' 
 
พอเจ้าแว่นพูดเสร็จก็หันมาพูดกับผม 
 
          ''ยังไงซ่ะตอนนี้ นายก็ต้องเล่นละครให้ฮิโตมิซ่ะ ไม่สามารถปฏิเสธได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีอะไรก็แล้วแต่ ถ้านายคิดจะทำแบบนั้นเมื่อไหร่'' 
 
พอเจ้าแว่นพูดเสร็จ ก็ทำหน้าว่าจะฆ่าผมแล้วพูดว่า 
 
          ''นายจะไม่มีทางได้รอดกลับไป'' 
 
ตอนนี้ในใจของผมกำลังเห็นอสูรกายถือกรรไกรตัดผมกับปีศาจดันแว่นที่พร้อมจะเอาชีวิตผมได้ทุกเมื่อ 
 
          ''เรื่องคอนเสิร์ต ฉันจะชดเชยให้นายเอง ในตอนนี้ฉันขอให้นายช่วยพวกฉันก่อนจะได้ไหม ถือว่าเป็นคำขอร้องจากฉันอีกคน'' 
 
จะชดเชยเหรอ เฮ่ออ.. ยังไงซ่ะการที่สามารถช่วยคนที่กำลังเดือดร้อนได้ก็เป็นสิ่งที่ดีนิน่ะ 
 
          ''เอางั้นก็ได้ แต่ต้องชดเชยให้ผมจิงๆน่ะถ้าเบี้ยวผมไม่ยอมแน่ๆ'' 
 
พอเจ้าแว่นได้ยินผมพูดแบบนั้นก็ยิ้มแล้วเอามือมาจับไหล่ของผม 
 
          ''ขอบใจน่ะ ฉันจะไม่เบี้ยวนายอย่างแน่นอนฉันขอสัญญา'' 
 
          ผมกลืนน้ำลาย แล้วคิดอยู่ในใจ(ฉันจะทำได้เหรอ ไอการแสดงเนี่ยเกิดมายังไม่เคยดูละครเลยแต่ก็เอาน่าเพื่อการชดเชยคอนเสิร์ต ฮิโตมิจังเองน่ะ จะพยายามให้ถึงที่สุดก็แล้วกัน) 
 
***
 
          ผมพยามเข้าใจตัวหนังสือที่เรียงรายยาวเหยียบอยู่เต็มกระดาษ ถึงผมจะอ่านมันออกก็จิง แต่จะให้พูดตามนี้ทั้งหมดคงจะไม่ใช้เรื่องง่ายแน่ๆ แล้วต้องเจอคนมากมายขนาดนั้น 
 
          ผมจินตนาการไม่ได้เลยว่าผมจะทำมันได้ พอผมนึกถึงหน้าฮิโตมิจัง ผมก็เกิดความรู้สึกที่ว่า ยังไงผมก็จะต้องทำมันให้ได้ ผมพยายามอ่านมันทั้งหมดและพยายามสรุปเหตุการณ์ในบท แล้วผมค่อยจัดคำพูดที่มันคล้อง
จองกับเหตุการนั้นเอาทีหลัง อย่างเช่น ในบทเหตุการณ์นี้ที่ต้องบอกรัก ผมก็จะ
บอกรักในแบบของผม ประโยคในบทหน่ะ ฉีกทิ้งไปได้เลย ใครมันจะไปจำได้ ให้
มานั้งจำแค่ชั่วโมงเดียวแบบนี้ 
          พอซักพักก็มีคนมาตามผมเข้าไปใส่เสื้อผ้า ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่สาวที่มาตามผมต้องหน้าแดงด้วย พอผมเข้าไปในห้อง เจ๊ก็เรียกผมไปลองชุด ซึ่งมันดูหรูหรามากมาก 
 
          ''☆โชอิจิคุงมานี่ๆ มาลองชุดเลยน่ะ☆'' 
 
ผมได้แต่คิดในใจว่าจะให้ผมเป็นคนใส่จิงๆเหรอ ผมเนี่ยน่ะ บ้าไปแล้ว 
 
          ''☆อะมา ยื่นแขนมาสิ☆'' 
 
แล้วเขาก็เอาเสื้อใส่ให้ผม มันพอดีตัวผมเลยแฮะ 
 
          ''☆อะโอเค ใส่ได้พอดี แสดงว่าเธอคือผู้ที่ถูกเลือกแล้วหล่ะ☆'' 
 
          ผมที่ได้ฟังแบบนั้นก็ทำหน้าหัวเราะ แหะ แหะ เป็นไปได้ไม่น่าให้ ฮิโตมิ มานั้งตั้งแต่ตอนนั้น คงจะดีกว่าที่ต้องมาเจอเรื่องยุ่งยากแบบนี้เซ็งจิงๆ 
 
          พอผมใส่ชุดที่พวกเจ๊เตรียมไว้ให้ทุกคนก็ต่างพากันมองมาที่ผมอยู่จุดเดียว 
 
          อู่หู~ 
 
          ทุกคนต่างร้องเป็นเสียงเดียวกัน บางคนก็ทำหน้าตกใจเหมือนเห็นอะไรยิ่งใหญ่ บางคนก็หน้าแดง บางคนก็เขินอายแต่ก็มองไม่วางสายตา 
 
          ''เจ้าหนุ่ม นายดูหล่อเหลามากๆเลยล่ะอย่างกับเจ้าชายลงมาเองจริงๆเอาใจฉันไปเลยไอน้อง''
 
มีพี่ผู้ชายเดินเข้ามาตบไหล่ผมแล้วพูดแบบนั้น ถ้าเกิดว่าได้เห็นผมก่อนหน้านี้คงด่าเละแน่นอน ฮ่า ฮ่า ฮ่า 
 
          ''นี่ๆ หลังเสร็จงานสนใจมาทำงานในวงการกันไหมฉันจะดันเธอเองรับลองว่าดังสนั่นแน่'' 
 
มีพี่สาวที่ดูจะมีชื่อเสียงเดินมาพูดกับผมแบบนั้น 
 
          ''ไม่เป็นไรคับๆ ฮ่ะ ฮ่ะ'' 
 
          แค่นี้ผมก็ไม่ไหวแล้วสงสัยออกไปคงลืมเนื้อเรื่องหมดแน่ๆ อย่าเอาเรื่องมาให้ผมเลยแค่นี้ก็อยากกลับบ้านจะตายอยู่แล้ว แล้วผมก็เห็นหน้าแม่หน้าพี่เคนแล้วก็เคนตะ ผมได้แต่เซ็งอยู่ในใจ ทำไมผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ 
 
          ''ฉันขอโทษน่ะที่ดูถูกนายไว้ก่อนหน้านี้'' 
 
เจ้าแว่นมาขอโทษผม ก็น่ะถ้าไม่เบี้ยวสัญญาก็จะยกโทษให้อยู่แล้ว 
 
          ''อย่าลืมสัญญาของเราหละ ไม่งั้นผมไม่ยอมแน่ๆ'' 
 
แล้วเจ้าแว่นก็ยิ้ม 
 
          ''ฉันว่า ฮิโตมิเลือกได้ถูกคนแล้วหล่ะ ที่เหลือฝากจัดการด้วยน่ะ'' 
 
          พอเจ้าแว่นพูดแบบนั้นผมก็คิดในใจ ฝากที่เหลืองั้นเหรอ ฉันเองนี้แหล่ะที่จะไม่เหลือ พอผมหันไปหาเจ๊ที่คอยดูแลผมอย่างดีคนนั้น
 
          ''☆เดี๊ยนไม่อยากจะเชื่อ ว่าเด็กห่วยแตกคนนั้นจะกลายมาเป็นชายรูปงามได้มากมายขนาดนี้'' 
 
          เจ๊เขาก็พูดไปร้องไห้ไป ขอบคุณที่ชมน่ะคับแต่จะเว่อร์เกินไปแล้ว!!! ผมก็คิดอยู่ในใจ เราก็ไม่เคยจะโดนชมอะไรแบบนี้ ก็ดีน่ะซักครั้งหนึ่งในชีวิตหึ 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา