The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  139.25K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

82) เผชิญหน้ารองเจ้าป่า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก  https://wallpaperaccess.com

 

....................

          

       มาวินเดินตรงโดยไร้อุปสรรคใดๆ ระหว่างทาง เด็กหนุ่มพบแต่สายลมเย็นและความว่างเปล่า เวลาผ่านไป 20 นาที ก็ถึงเชิงเขาอันเป็นด่านสุดท้ายของดันเจี้ยน

 

“ โอ้โห มองไกลๆ ไม่น่าสูงเท่าไหร่ แต่พอมองใกล้ๆ ก็มหึมาไม่ใช่น้อย ตกลงภูเขาลูกนี้สูงกี่เมตรกันแน่ฟะ พี่ชายผมทอง ” มาวินจ่อปากไปที่นาฬิกาข้อมือ เพื่อถามข้อมูล แต่ปลายสายกลับเงียบฉี่ 

 

“ เหอๆ..... มีงอนด้วยแฮะ ดีเลย ถึงมีนาย ก็เหมือนไม่มีนั่นแหละ แบร่..... ” มาวินแลบลิ้นใส่นาฬิกาข้อมือเป็นเชิงล้อเลียน แต่ภายในกลับรู้สึกจิตตกพอสมควรที่จู่ๆต้องขาดผู้ช่วยคนสำคัญ

           

 

        แม้มาวินต้องสู้ต่อโดยไร้ผู้สนับสนุน แต่ด้วยทิฐิมานะที่แรงกล้า ก็บันดาลให้เขางดเว้นคำขอโทษและก้าวขึ้นสู่เขาสูง ปากก็บ่นพึมพำเรื่อยเปื่อยตามประสาคนอยู่ไม่สุข

 

“ เชอะ ด่าแค่นี้ ทำเป็นงอน ไอ้ผมทองใจเสาะเอย กลับไปได้ จะเอาดาบยาวๆของมันยัดตูดให้ร้องแต๋วแตกไปเลย ”

           

 

        ทางเดินขึ้นเขาค่อนข้างเรียบ คล้ายถนนที่ตัดมาเป็นอย่างดี แถมไม่ชันมาก คนแก่อายุ 70 อัพสามารถเดินผ่านได้อย่างสบาย ดูไปแล้ว สถานที่นี้ไม่น่าจะเป็นด่านสุดท้ายของดันเจี้ยน แต่น่าจะเป็นอุทยานป่าสงวนซะมากกว่า 

 

“ โอ้โห.... แน่ใจนะว่านี่เป็นด่านสุดท้าย ถนนหนทางเดินง้ายง่ายอย่างกะทางเข้าสวนสาธารณะเลย แถมบรรยากาศก็ดีจนน่ามาปิกนิก ” เด็กหนุ่มเดินขึ้นเขาอย่างช้าๆ สายตามองป่ารอบข้างที่อุดมไปด้วยดอกไม้หลากสีสันและต้นไม้ที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ

          

 

        เด็กหนุ่มเดินชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ เขารู้สึกชิวเอามากๆ เพราะตลอดทางเดินเต็มไปด้วยความชุ่มฉ่ำ ร่มรื่นและสวยงาม

 

“ อืม.....ที่นี่สวยไม่เลวแฮะ ถ้าจันได้มาเห็น ยัยนั่นต้องชอบแน่ๆ ” เด็กหนุ่มพูดไปก็อมยิ้มไป ใจคิดถึงเพื่อนวัยเด็กที่ถวิลหา  

            

 

        ทุกสรรพสิ่งในที่นี้ดูเหมือนจะสมบูรณ์และสวยงามตามอุดมคติของจิตรกรเอก ทว่ากลับมีสิ่งหนึ่งที่ขาดหายไป นั่นก็คือ……..เสียงของสิงสาราสัตว์  

           

 

        เด็กหนุ่มเดินเรื่อยเฉื่อย โดยไม่แยแสต่อความผิดปกติที่ปรากฏ ในที่สุด เขาก็มาถึงยอดเขาได้สำเร็จ 

            

 

        บนยอดเขานั้นเป็นลานโล่งรูปวงกลม มีต้นไม้แวดล้อมอยู่ประปราย เบื้องหน้าของเด็กหนุ่มคือหน้าผาสูงชันที่ยื่นออกจากลานกว้างไปเล็กน้อย 

       

 

        หน้าผาแห่งนั้นมีสิ่งหนึ่งที่สะดุดตาของเด็กหนุ่ม นั่นก็คือแท่นโลหะที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 เซนติเมตร

 

“ เย้ๆ ถึงยอดเขาแล้ว สิ่งนั้นน่าจะเป็นแท่นวาร์ปที่พาชั้นออกจากดันเจี้ยนนี้ ” มาวินฉีกยิ้มกว้าง เขาเดินตรงไปที่แท่นวาร์ป 

           

 

        ทุกย่างที่ก้าว ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มมั่นใจ โจจี้คือตัวซวยขนานแท้ เพราะในด่านที่ผ่านมา หนุ่มหล่อทักทีไร ศัตรูต้องโผล่มาทุกที แต่ในด่านสุดท้าย ไม่ปรากฏแม้แต่มดซักตัว 

 

“ นับว่าโชคดีที่เบรกพี่ชายผมทองได้ทัน ไม่งั้นเราคงได้เจอตัวอะไรซักอย่างแน่ๆ ” มาวินยิ้มให้ตนเอง

        

 

        ขณะที่เด็กหนุ่มใกล้จะถึงแท่นวาร์ป ก็บังเกิดเสียงคำรามของอะไรบางอย่าง กระแสนั้นดูทรงอำนาจ

 

“ โฮก........ ” 

             

 

         ทันทีที่ได้ยินเสียง เด็กหนุ่มหัวเขียวถึงกับชะงัก ความเย็นยะเยือกแล่นผ่านไขสันหลังและกระจายไปทั่วร่าง ด้วยรู้ดีว่านี่คือเสียงของอะไร แต่ก็ไม่วายปลอบใจตัวเอง 

 

“ เอ๊ะ หูแว่วไปเองล่ะมั้ง สงสัยช่วงนี้เจ็บตัวบ่อย เลยออกแนวหลอนนิดๆ เหอ เหอ เหอ.... ” มาวินหัวเราะแห้งๆ ทันใดนั้นเอง เสียงนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้กระโชกแรงและลากยาวยิ่งกว่าเดิม

 

“ โฮก......... ” 

            

 

      มาวินกลั้นหายใจ พร้อมรวบรวมความกล้า เพื่อหันกลับไปมอง เมื่อได้ประจันกับสิ่งที่ส่งเสียง เด็กหนุ่มก็พบว่ามันคือ……..เสือดาว

             

 

        เสือดาวตัวนั้นโตเต็มวัย ร่างยาวใกล้เคียงกับความสูงของมาวิน หนังสีเหลืองมีจุดดำแต้มอยู่โดยรอบ ดวงตาดุร้ายบนใบหน้าจับจ้องมาที่เด็กหนุ่ม หูตั้งชันขึ้นมา พร้อมขนที่พองทั่วกาย อาการคล้ายแมวใหญ่ที่กำลังสำแดงเดช

 

“ ฮะๆ ใจเย็น เพื่อน ชั้นแค่จะขออนุญาตเดินไปที่จุดวาร์ปนั่น จะได้มั้ย ” มาวินขอร้องเสือร้าย พร้อมหัวเราะ เขาพยายามตีสีหน้าให้เป็นมิตรที่สุด

 

“ โฮก....... ” เสือดาวอ้าปากกว้างและคำรามยาว เสียงดังก้องกว่าสองครั้งที่ผ่านมา เขี้ยวในปากแหลมคมและแข็งแรง เชื่อว่าถ้ามันได้ขย้ำมาวินแบบเต็มๆ รับประกันได้เลยว่าต้องมีเนื้อหลุดออกมาเป็นยวง

 

“ เหอๆ ฟังจากเสียง คงไม่ใช่คำว่า…..ยินดีต้อนรับแน่ๆ ” มาวินยังเพ้อเจ้อได้อีก แต่น้ำเสียงกลับสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

          

 

         เสือดาวหยุดคำราม มันย่างสามขุมเข้าหาเด็กหนุ่มอย่างเชื่องช้า ดวงตาคมวาวที่แสนดุร้ายจับจ้องมาที่เหยื่ออยู่ตลอด

 

“ เฮ้..... จะทำอะไรน่ะ อย่าเข้ามานะ ชั้นไม่อร่อยหรอก พวก ไปกินอย่างอื่นเถอะน่า ” มาวินถอยหลังช้าๆ พร้อมตั้งท่าสู้ แน่นอนว่าเสือดาวไม่เคยคิดเกรงกลัวท่าทางขอร้องแกมข่มขู่ที่น่าอนาถ มันก้าวเข้ามาเร็วขึ้น 

 

“ โว้ๆ ช้าก่อน ใจเย็นๆ ” มาวินร้องห้ามเสียงหลง อึดใจต่อมา เด็กหนุ่มก็รู้สึกว่าแผ่นหลังได้กระทบกับอะไรบางอย่างที่แข็งกระด้าง เขาตอบตัวเองในใจว่าสิ่งนั้นคือ….ต้นไม้ 

 

“ ซวยแล้ว ” 

             

 

        วินาทีนั้นเอง เด็กหนุ่มก็รู้สึกถึงแรงลมมหาศาลที่พัดกระพือ พอเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบกับเสือดาวร่างเพรียวที่กำลังกระโจนเข้ามา พร้อมกรงเล็บแหลมคมบนอุ้งมือ

 

“ เฮ้ย ” มาวินกระโดดออกข้างสุดกำลัง 

 

“ เปรี้ยง ” 

            

 

          กรงเล็บของเสือดาว ทำให้เปลือกไม้แตกกระจุย นับว่ามาวินเป็นนักสู้ที่มีปฏิกิริยาว่องไว เพราะถ้าเมื่อกี้หลบไม่ทัน รับประกันได้เลยว่าหัวของเขาต้องหลุดจากบ่าอย่างแน่นอน 

 

“ กรร...... ” เสือร้ายหันกลับมาแยกเขี้ยวขู่ ท่วงท่าเต็มไปด้วยความดุร้ายตามสายพันธุ์ ส่วนมาวินก็ยกสองแขนขึ้นตั้งการ์ด เพื่อรับการจู่โจมครั้งต่อไป

 

“ เหอๆ สงสัยจะจริงอย่างที่พี่ชายหัวทองพูด......ถึงหมอนั่นจะทักหรือไม่ทัก เราก็ต้องเจอกับมอนสเตอร์ประจำด่าน ” มาวินเริ่มสำนึกผิด ในระหว่างที่รู้สึกจิตเสื่อม เสียงของโจจี้ก็ดังขึ้นมา

 

“ เป็นไง ไอ้น้องชายหัวเขียว ที่นี้นายเชื่อรึยัง ถึงชั้นไม่พูดอะไร มอนสเตอร์ก็โผล่ออกมาอยู่ดี ” น้ำเสียงของหนุ่มผมทองดูจะสะใจ 

 

“ เออ นายถูกก็ได้ ตกลงที่โฟนอินเข้ามา กะจะมาเยาะเย้ยหรือมาช่วยกันแน่ฟะ ” มาวินถามกลับ ท่าทางเคืองนิดๆ แต่ลึกๆนึกดีใจที่ได้ยินเสียงโจจี้

 

“ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ โฟนอินคืออะไร ” โจจี้ถามกลับมาอีกครั้งตามนิสัยใฝ่รู้ (แถวบ้านเรียกสอใส่เกือก)

 

“ โฟนอินก็คือ… เฮ้ย ไอ้บ้า จะตายมิตายแหล่อยู่แล้ว นายดันมาถามบ้าถามบออะไรฟะ ” มาวินนึกนิดหนึ่งว่าจะตอบยังไง แต่พอเหลือบไปเห็นเสือร้ายที่ยืนถมึงทึง เขาก็เปลี่ยนมาโวยใส่หนุ่มหล่อ

 

“ เออ จริงแฮะ นายกำลังแย่อยู่นี่หว่า เอาล่ะ เจ้าตัวนี้คือเสือดาว เป็นมอนสเตอร์ที่มีเลเวลอยู่ในระดับ 18-25 ” หนุ่มผมทองรีบบอกข้อมูลของมอนสเตอร์ที่มาวินกำลังผจญ

 

“ เฮ้อ...... นายช่วยได้มากเลย แต่รบกวนบอกอะไรที่ชั้นยังไม่รู้ จะได้มั้ย ” มาวินถอนหายใจเบาๆ

 

“ โอเค เดี๋ยวขอดูข้อมูลที่ศาสตราจารย์ส่งมาก่อน ” โจจี้ไม่ต่อร้องต่อเถียงเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าเขาคิดหาหนทางช่วยเหลือพระเอกหนุ่มมาดลิงอย่างจริงจัง

          

 

         จังหวะที่มาวินกำลังง่วนอยู่กับการสนทนา เสือดาวตัวร้ายก็ฉวยโอกาส กระโจนเข้าใส่สุดกำลัง ด้วยความเร็วและระยะที่กระชั้น ทำให้หลีกเลี่ยงได้ยากกว่าคราวแรก

 

 

สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา