Trap Demons หลุมพรางร้าย ปีศาจร้อน

-

เขียนโดย Piano_sp

วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 08.04 น.

  14 ตอน
  0 วิจารณ์
  10.82K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2563 08.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) Trap Demons : 06

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
 
6
 
 
“อ่า ปักษาแรงกว่านี้”
เสียงกระเส่าของหญิงสาวร่างสุดเซ็กซี่กล่าวอ้อนวอนชายหนุ่มที่กำลังขับเคลื่อนร่างกายอยู่เหนือเธอ ชายหนุ่มกลับไม่ขานรับแต่ร่างกายของเขากลับขยับแรงขึ้นและเร็วขึ้นกว่าเดิม
“ปักษา อ่า พริ้งไม่ไหวแล้ว”
หญิงสาวร้องออกมาด้วยความทรมานแต่การทรมานครั้งนี้มีแต่ความสุขและความซาบซ่าน ชายหนุ่มเร่งจังหวะการขยับให้เร็วขึ้นกว่าเดิมแล้วทั้งคู่ก็กระตุกพร้อมกันเมื่อถึงที่หมายแล้ว
พริ้ง มีความสุขที่สุดเลยค่ะ”
หญิงสาวกอดร่างของชายหนุ่มไว้พร้อมกับเอนตัวเข้าไปใกล้เพื่อที่จะจูบชายหนุ่ม แต่ชายหนุ่มกลับผลักหญิงสาวออกอย่างไร้เยื่อใย
“ฉันบอกแล้วว่าห้ามจูบ”
ผมหันไปตะคอกกับผู้หญิงที่ผมพึ่งนอนด้วยเมื่อกี้อย่างหงุดหงิด
“ทำไมละ เมื่อก่อนเราก็เคยจูบกันนี่”
พริ้งมองหน้าผมอย่างเข้าใจ
“นั่นมันเมื่อก่อนไม่ใช่ตอนนี้”
พริ้งที่เป็นผู้หญิงที่สวยและเซ็กซี่คนหนึ่ง แต่เธอทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผมมากเกินไปทั้งที่เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะทำเลยสักนิด มันเลยทำให้ผมเริ่มที่จะเบื่อเธอเข้าแล้วละ
“งั้นพริ้งไม่จูบก็ได้ พรุ่งนี้ปักษาไปทานข้าวเป็นเพื่อนพริ้งหน่อยนะ”
เธอเปลี่ยนประเด็นแล้วเข้ามาอ้อนผมแทน ผมตวัดสายตามองเธออย่างเบื่อหน่าย ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงไม่ทำแบบนี้กับผมบ้างน่ะ นี่ผมกำลังคิดอะไรบ้าๆ กันอยู่เนี่ย
“อย่ามากไปพริ้ง”
ผมพูดออกมาอย่างไม่แคร์ความรู้สึกของคนที่ฟังอยู่อย่างเธอ หญิงสาวที่อยู่ข้างกายผมตอนนี้ทำสีหน้าไม่พอใจออกมาให้เห็นมันยิ่งทำให้ผมยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
“นี่ฉันเคยมีค่ากับคุณไหม”
พริ้งกล่าวออกมาอย่างน้อยใจ
“อย่าถามคำถามที่เธอก็รู้คำตอบดี”
ผมกล่าวแล้วก็ลุกขึ้นจากเตียงนอน ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ที่ห้องของตัวเองเรื่องอะไรจะให้ผู้หญิงแบบนี้ไปนอนที่ห้องผม ไม่ใช่เมียผมซะหน่อย จะพาไปทำไม ก็แค่คู่นอน
“นั่นคุณจะไปไหนปักษา”
พริ้งถามแล้วจ้องหน้าผมอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับเดินมากระชากแขนผมไว้
“กลับสิถามได้”
ผมตอบแล้วมองดูเรือนร่างที่ปราศจากเสื้อผ้าติดกายของพริ้งอย่างเบื่อหน่าย
“นี่คุณจะทิ้งฉันไว้ที่นี่เหรอ”
“นี่ก็ห้องเธอไม่ใช่เหรอ”
ผมถามแล้วเอียงคอมองเธอ
“นายจะทำแบบนี้ไม่ได้น่ะปักษา”
พริ้งกล่าวอย่างเอาแต่ใจหวังว่าจะรั้งผมไว้ให้ได้ แต่ผู้หญิงแบบนี้กินครั้งเดียวก็เบื่อแล้ว
“โทษน่ะ ฉันเบื่อเธอแล้ว ไปล่ะ”
ผมพูดแค่นั้นก็แกะมือตุ๊กแกของพริ้งออกจากแขนของผมออกอย่างไร้เยื่อใย แล้วก็เดินออกมาโดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องของพริ้งที่ร้องออกมาอย่างโหยหวน
บ่ายวันต่อมา
ณ Trap Café
ตอนนี้ผมมานั่งทานข้าวที่ร้านของไอ้เกรย์เพื่อนคนหนึ่งของผม แต่ปกติเวลาที่ผมชอบมาที่ร้านมันจะเป็นช่วงเวลาที่ร้านปิดเสียมากกว่าเพราะผมไม่ค่อยจะชอบทานข้าวในที่ที่มีคนมากๆ ซักเท่าไหร่ แต่วันนี้ผมเบื่อๆ ไม่อยากอยู่ห้องพวกไอ้ไตรทศเลยนัดผมมานั่งเล่นที่ร้านของไอ้เกรย์นี่ล่ะ
“นี่มึงจะแย่งกูดูทำไมว่ะไอ้ราพณ์”
เสียงของไตรทศกล่าวขึ้นมาเสียงดังพร้อมขยับตัวออกห่างไอ้ราพณ์ที่กำลังใช้มือของตัวเองแย่งหนังสือที่อยู่ในมือของไอ้ไตรทศ
“กูขอดูหน่อยแป๊บหนึ่ง ทำเป็นหวงไปได้”
“ก็กูเป็นคนซื้อกูก็ต้องได้ดูก่อนดิว่ะ”
สองคนนี้ไม่รู้เป็นอะไรกันทะเลาะกันเป็นเด็กๆ ไปได้ ปกติกลุ่มเราจะมีกันอยู่สี่คนแต่ช่วงนี้พวกเราเหลือกันแค่สามคนเพราะว่าอีกหนึ่งคนที่เหลือก็คือ ไอ้ภูเบศ มันมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วและมันก็สนใจแต่เมีย เพื่อนอย่างพวกผมก็ไร้ค่าไปอย่างไม่ต้องสงสัย
“กูก็ชอบเขาเหมือนกันน่ะ นานๆ จะเห็นถ่ายแบบที”
“ไม่ได้น้องโยเป็นของกู”
สองคนนั้นยังคงแย่งหนังสือกันอย่างดุเดือด ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นหนังสืออะไรดูจากหน้าปกแล้วน่าจะเป็นนิตยสารเพราะมีรูปของนางแบบคนหนึ่งใส่เพียงแค่ชุดชั้นในโพสท่าเซ็กซี่ๆอยู่ ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่เพราะปกติผมไม่ค่อยจะสนใจเรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่ เห็นแต่สองคนเนี้ยแหละที่ทะเลาะกันเรื่องนี้ทุกที
“เฮ้ย!”
ปรึก!
เสียงปรึกที่ว่าเป็นเสียงหัวผมโดนกับสันหนังสือที่หลุดลอยออกจากมือสองคนนั้นยังไงละ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้ผมทำหน้ายังไง
“กูขอโทษ”
พวกมันทั้งสองคนกล่าวออกมาพร้อมกันพร้อมกับทำหน้าสำนึกผิด แต่ตาพวกมันยังจดจ้องมาที่หนังสือที่ตกอยู่ต่อหน้าผมอยู่ไม่วางตา
“กูอยากรู้จริงว่าอะไรทำให้พวกมึงต้องมาทะเลาะกันแบบนี้”
ผมไม่เพียงแค่พูดเพราะว่ามือของผมกำลังเปิดนิตยสารนั้นดูอยู่ยังไงล่ะ ภายในนิตยสารมีแต่รูปชุดชั้นในผู้หญิงอยู่เต็มไปหมดแต่นางแบบนิตยสารเล่มนี้ใช้คนเดียวกันทั้งเล่ม
“โห่ เห็นไหมไอ้ปักษาชิงไปดูก่อนแล้ว”
ไอ้ไตรทศครวญครางอย่างเสียดายพร้อมกับหันไปต่อว่าไอ้ราพณ์
“กูขอดูด้วยตั้งแต่แรกมึงไม่ยอมเอง ช่วยไม่ได้”
“ก็กูอยากดูน้องโยคนเดียวอ่ะ”
ไอ้ไตรทศนี่ก็พิลึกเนอะเป็นผู้ชายอะไรซื้อนิตยสารชุดชั้นในผู้หญิงมาดู ผมส่ายหัวให้พวกมันอย่างเบื่อหน่ายแล้วก้มมองดูนิตยสารอีกครั้ง เอ๊ะ นางแบบคนนี้ผมรู้สึกคุ้นหน้ายังไงก็ไม่รู้
“ไอ้ปักษามึงคิดจะแย่งน้องโยกูไปอีกคนเหรอ”
ไอ้ไตรทศหันมาต่อว่าผมอย่างหงุดหงิด
“นางแบบคนนี้ชื่อว่าอะไรน่ะ”
ผมถามแล้วพวกมันทั้งสองคนก็มองหน้าผมอย่างงงๆ เพราะว่าปกติผมไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้แต่ทำไมวันนี้ผมถึงสนใจเป็นพิเศษ
“ชื่อวาโย”
ไอ้ไตรทศบอก
“เออ จะว่าไปชื่อเหมือนแฟนเก่ามึงเนอะ”
ไอ้ราพณ์กล่าวเสริมเลยทำให้ผมมั่นใจเลยว่าผู้หญิงที่เป็นนางแบบนิตยสารเล่มนี้เป็นเธอจริงๆ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอคนนั้นจะเป็นนางแบบเพราะเธอไม่ได้ทำตัวเหมือนนางแบบเลย แต่ที่ทำให้ผมแปลกใจไปยิ่งกว่านั้นคือเธอไม่ได้เป็นนางแบบธรรมดาแต่เธอเป็นนางแบบชุดชั้นในที่ทำให้พวกผู้ชายอย่างเพื่อนผมต้องมาทะเลาะกันอย่างไร้สาระ เพราะเธอคนเดียววาโย
“ไม่ใช่แค่ชื่อที่เหมือน แต่เป็นยัยนั่นจริง”
ผมพูดแล้วสองคนที่ฟังผมอยู่ก็แสดงสีหน้าตกใจออกมาอย่างสุดขีด
“กูก็ว่าทำไมแฟนมึงหน้าคุ้นๆ”
“โห่ ไอ้ปักษาคาบไปแดกคนเดียวเลยมึง”
ไอ้ไตรทศกับไอ้ราพณ์โอดโอยออกมาอย่างเสียดาย
“แต่กูก็ชอบเขาอยู่น่ะมึง”
ไอ้ไตรทศกล่าวออกมามันทำให้ผมหงุดหงิดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
“มึงเลิกชอบไปเลย”
ผมสั่งไอ้ไตรทศไปด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด
“กูชอบเขาก่อนมึงอีกน่ะ”
ไอ้ไตรทศยังคงกล่าวพร้อมกับทำหน้าไม่พอใจ แล้วกอดอกมองผมอย่างงอนๆ ปัญญาอ่อน
“กูไม่ได้ชอบยัยนั่น และกูก็ไม่อนุญาตให้มึงชอบด้วย”
ผมตอบอย่างเอาแต่ใจไอ้ไตรทศและไอ้ราพณ์ก็แสดงสีหน้างอนๆ ใส่ผมอย่างที่พวกมันชอบทำ แล้วสายตาผมก็ดันไปมองเห็นสิ่งที่ทำให้ความหงุดหงิดผมเพิ่มขึ้นอย่างบังเอิญ จะอะไรล่ะ วาโยไง เธอเดินเข้าร้านมาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่กลุ่มพวกที่เห็นในผับตอนนั้นแต่เป็นใครอีกคนที่ผมไม่รู้จัก
ตอนนี้วาโยอาจจะไม่สังเกตเห็นผมแต่ผมเห็นเธออย่างชัดเจน สายตาที่เธอมองผู้ชายคนนั้นเธอเคยใช้มันมองผมมาก่อน และรอยยิ้มนั่นที่เคยมีให้ผมเธอก็มอบมันให้กับผู้ชายคนนั้น อ่า รู้สึกหงุดหงิดโว๊ย
Vayo Talk
“กินไรดีโย เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”
พี่ตรีภพกล่าวขึ้นหลังจากที่ฉันกับเขาเดินเข้ามาในร้านของเกรย์ที่เป็นร้านประจำของฉัน อ่อ วันนี้พี่ตรีภพมารับฉันที่มหาลัยเพราะว่าตอนเย็นพวกเรามีนัดทานข้าวกับแม่ฉันที่บ้านใหญ่พี่ตรีภพเลยอาสามารับฉัน และตอนนี้เราก็แวะทานข้าวเที่ยงกันในช่วงบ่ายที่ร้านของเกรย์กัน
“นี่เดี๋ยวโยแนะนำ อันนี้อร่อยมาก”
ฉันกล่าวแล้วชี้ภาพที่อยู่ในเมนูให้พี่ตรีภพดู พอเงยหน้าออกจากเมนูหน้าฉันกับหน้าพี่ตรีภพอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบเลยด้วยซ้ำ และตอนนี้พี่ตรีภพก็กำลังมองฉันอยู่ด้วย
“โยนี่สวยเนอะ”
จู่ๆ พี่ตรีภพก็ชมฉันขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ มันเลยทำให้ฉันเขินขึ้นมาจนห้ามไม่อยู่
“พี่ตรีภพพูดอะไรก็ไม่รู้”
ฉันพูดแล้วเลื่อนหน้าของตัวเองออกมาห่างๆ จากพี่ตรีภพ เพราะการที่เราอยู่ใกล้กันแบบนี้แล้วฉันรู้สึกแปลกยังไงก็ไม่รู้
“พี่พูดจริง โยก็รู้ว่าพี่ไม่เคยโกหกโยเลย”
พี่ตรีภพไม่เพียงแค่พูด เขาเลื่อนมือมากุมมือของฉันไว้แน่เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูด ฉันสบตากับพี่ตรีภพเพื่อหาคำตอบของเขาพูดที่แฝงไปด้วยความหมายของเขาเมื่อกี้
ตึ่ง!
เสียงเหมือนมีอะไรกระแทกกับโต๊ะทำให้ฉันละสายตาจากพี่ตรีภพไปมองที่ต้นเสียง พอหันไปมองฉันก็ต้องตกใจเพราะคนที่ทำให้เกิดเสียงเมื่อกี้นั่นคือ ปักษา
ปักษากำลังจ้องเขม่งมาที่ฉันด้วยสีหน้าที่ดูหงุดหงิดเอามากๆ ฉันเลยดึงมือออกจากการเกาะกุมของพี่ตรีภพเพราะว่าสายตาของปักษากำลังมองดูที่มือฉันอยู่ เขานั่งอยู่ไม่ห่างจากโต๊ะที่ฉันนั่งซักเท่าไหร่ เลยทำให้ฉันเห็นสีหน้าของเขาได้ชัด ตอนที่เดินเข้ามาในร้านฉันไม่เห็นเขาจริงๆ ถ้าเห็นฉันไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก
“คนรู้จักเหรอโย”
พี่ตรีภพถามขึ้นหลังจากที่สังเกตเห็นว่าฉันมองไปทางนั้นนานจนเกินไป และเขาก็กำลังมองไปตามทางที่ฉันมองดูอยู่ด้วย
“เปล่าค่ะ”
ฉันกล่าวปฏิเสธไปพร้อมกับหันมายิ้มให้กับพี่ตรีภพ จะให้ฉันบอกไปตรงๆ เลยเหรอว่านั่นแฟนเก่าโยเองค่ะ คงไม่น่าจะดี และฉันเองตอนนี้ก็ไม่ได้อยากจะรู้จักกับปักษาหรอก
“อ่อ งั้นสั่งอันนี้ก็แล้วกันเนอะ”
“ค่ะ”
แล้วพี่ตรีภพก็ลงมือสั่งอาหาร แต่ตอนนี้เหมือนฉันกำลังถูกจ้องอยู่เลย แล้วความรู้สึกนั่นก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่ฉันคิดไปเอง ตอนนี้ปักษาก็กำลังจ้องฉันอยู่ด้วยใบหน้านิ่งๆ เขาไม่สนใจเพื่อนที่นั่งร่วมโต๊ะของเขาเลยแม้แต่นิด อ่า ฉันรู้สึกอึดอัดแปลกๆจัง
“โยขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ พี่ตรีภพ”
ฉันกล่าวขึ้นเพราะอยากจะเลี่ยงจากปักษาให้ห่างๆ ห้องน้ำคือสิ่งที่ฉันคิดได้ตอนนี้
“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม”
พี่ตรีภพอาสา ฉันเลยส่ายหน้าเพื่อเป็นการปฏิเสธไป แล้วก็เดินออกมาแล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำทันที หวังว่าฉันออกจากห้องน้ำแล้วปักษาคงจะกลับไปแล้วน่ะ ฉันใช้เวลาสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำสักพักก็เดินออกมา แต่แล้วร่างกายฉันก็โดนกระชากไปในที่ที่ลับตาคน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครทำ มีคนเดียวเท่านั้นแหละที่ทำแบบนี้กับฉัน ปักษา
“คงจะมีความสุขมากสิน่ะ”
ปักษาพูดแล้วกำแขนฉันแน่น จนฉันรู้สึกเจ็บ ทำไมสิ่งที่ฉันภาวนาไว้ถึงไม่เป็นจริงสักทีน่ะ
“ใช่ ฉันมีความสุขมากหลังจากที่เลิกกับนาย”
ฉันกล่าวแล้วจ้องหน้าปักษากลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ วาโยคนเดิมมันได้ตายไปแล้วละปักษา ฉันจะไม่มีทางยอมนายอีกแน่ๆ
“ก็แค่แฟนใหม่ที่พึ่งมา จะสู้ฉันได้เหรอ”
“นี่นายคงไม่รู้อะไรสิน่ะ”
ฉันมองหน้าปักษาพร้อมกับยิ้มให้เขาไปอย่างสมเพช เขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับตัวฉันเลยจริงๆ
“รู้อะไรของเธอ”
ปักษาถามพร้อมกับทำหน้าหงุดหงิดใส่ฉัน
“ก็รู้ว่า ผู้ชายคนนี้เขามาก่อนนายไง”
ทันทีที่ฉันกล่าวออกมาปักษาก็เปลี่ยนสีหน้าไปเป็นอีกแบบหนึ่ง สายตาที่เขากำลังมองมาที่ฉันตอนนี้มันมีแต่ความโกรธที่ฉันสัมผัสได้ก็เพราะว่าฝ่ามือที่กำแขนฉันไว้กำลังกำไว้แน่นจนกระดูกฉันแทบหัก ฉันเจ็บน่ะ แต่ไม่แสดงอาการเจ็บออกมาให้ปักษาเห็น ถ้าฉันแสดงออกว่าเจ็บออกมานั่นแหละหมายถึงว่าฉันกำลังอ่อนแอ
 
 
 
 
 
ว๊าย ตายแล้ว
ปักษา เธอมาทีหลังนะเออ 5555
โปรดติดตามต่อตอนหน้าค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา