โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  114.62K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

82) ข้าไม่ใช่แม่มด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
สตรีชุดแดงพาเด็กๆ เข้าไปยังส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่น   มีโต๊ะกลมขนาดใหญ่พร้อมกับกับเก้าอี้ทั้งหมดหกตัว   แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาคือลูกแก้วสีแดงแวววาว   มันวางอยู่บนฐานที่ตั้งไว้กลางโต๊ะพอดี
 
“ ท่านเป็นแม่มดนี่ ”
 
ฟิโลโซเฟอร์ว่า
 
“ แค่เห็นลูกแก้วอันเดียวก็ทึกทักไปเองแล้ว   แบบนี้ไม่ไหวเลยนะพ่อหนุ่มน้อย ”
 
นางว่ายิ้มๆ แต่เป็นรอยยิ้มแบบเอ็นดู
 
“ ไม่ใช่หรอก   ข้ารู้สึกได้   ท่านมีบางอย่างไม่เหมือนคนปรกติ ”
 
“ งั้นหรือ   ยังไงเสียเจ้าก็คุ้นเคยกับพ่อมดถึงสองคนนี่นะ   ถ้าจะรู้จักแม่มดเพิ่มอีกสักคนจะเป็นไรไป   แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่ได้เป็นแม่มดหรอก   สาบานได้ ”
 
เด็กชายตัวน้อยแสดงสีหน้าชัดเจนว่าไม่เชื่อ
ในใจก็นึกสงสัยว่านางรู้เรื่องของเขาได้อย่างไร
 
“ เอาอย่างนี้   เจ้าไปถามดารีลดูสิ   เด็กหนุ่มนั่นรู้จักข้าดีแต่ระวังหน่อยนะ   เขาเป็นคนขี้อิจฉาอาจจะใส่ความข้าไปต่างๆ นาๆ   ทั้งที่ความจริงข้าน่ะเป็นคนมีเมตตาแท้ๆ ”
 
สตรีนางนั้นจุดเตาตะเกียงน้ำมันสนที่ตั้งเอาไว้ข้างห้อง  
จัดการวางกาน้ำชาที่ทำจากกระเบื้องดินเผาสีขาวกระจ่างลงเหนือเตา  
แล้วจึงแจกจ่ายขนมให้เด็กๆ
มีเงาสีดำร่างหนึ่งเดินเข้ามาอย่างเงียบกริบ
เขาหยิบกาน้ำชาขึ้นแล้วเปิดดู
 
“ นี่เจ้าคิดจะชงชาแบบนี้ให้เด็กๆ จริงๆ หรือ ”
 
เสียงนั้นนุ่มละมุนแต่เต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นข้องใจ
พวกเขาต่างหันไปมองทางนั้น
จึงได้เห็นดารีลยกกาขึ้นแกว่งๆ ด้วยท่าทางน่าหวาดเสียว
 
“ ระวังหน่อยประเดี๋ยวกาน้ำร้อนของข้าก็แตกพอดี ”
 
สตรีชุดแดงทำเสียงดุ
 
“ ทีหลังก็ซื้อเป็นกาทองคำสิ   เวลาโดนข้าเขวี้ยงจะได้ไม่แตก ”
 
ถึงจะกล่าวเช่นนั้น
แต่เขาก็วางกลับลงไปอย่างเบามือ
หนุ่มน้อยพ่อมดมองสำรวจเด็กทีละคน
แล้วบอกว่า
 
“ พวกเจ้านี่นะ   ไม่เคยมีใครเตือนเลยหรือว่าอย่ารับประทานอาหารจากคนแปลกหน้า   โดยเฉพาะคนที่คะยั้นคะยอไม่เลิกแบบนางผู้นี้   ข้าไม่ประหลาดใจเลยหากสักวันพวกเจ้าจะตายเพราะโดนวางยา ”
 
โลธอร์ได้ยินดังนั้นถึงกับสำลัก
เพราะตอนนี้เขาเคี้ยวขนมอยู่เต็มปาก
 
“ อย่าตกใจไปของจริงอยู่ในกาที่กำลังเดือดโน่น ”
 
ดารีลว่าพลางวางมือหนักๆ ลงบนบ่าของเด็กร่างอ้วน
ซึ่งขณะนี้กำลังชักตาตั้ง
 
“ ตกลงแล้วขนมนี่กินได้หรือเปล่า ”
 
อีเลียสถามหวาดๆ เพราะเขาได้ชิมไปบ้างแล้ว
เด็กคนอื่นเริ่มกระวนกระวาย
แต่ฟิโลโซเฟอร์นิ่งเฉยเพราะเขาไม่ได้แตะต้องอะไร
 
“ ถ้ากินเข้าไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องถามอะไรอีก   เปล่าประโยชน์ที่จะคิดแก้ไข ”
 
ดารีลตอบเรียบๆ
เมื่อเห็นเด็กๆ หน้าถอดสีเขาจึงกล่าวต่อ
 
“ ขอโทษ   ข้าพูดไม่ชัดเจนเอง   ถ้าคิดว่าอร่อยก็กินๆ ไปเถอะไม่มีอะไรหรอก   ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียน   ครั้งหน้าไม่แน่เจ้าอาจไม่ได้ตั้งคำถามแบบนี้อีก ”
 
“ เจ้ากำลังจะบอกว่าข้าคิดวางยาเด็กอย่างนั้นหรือ   แหมแบบนี้เกินไปหน่อยนะ   ข้าจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรกัน   แท้จริงข้าน่ะรักเด็กและอยากมีลูกเป็นของตัวเองจะแย่ ”
 
นางว่าพลางตีหน้าเศร้า
 
“ จะให้ข้าเอาน้ำชาในกากรอกปากเจ้าดูก่อนหรือเปล่าล่ะ ”
 
ท่าทีของดารีลบอกชัดเจนว่าเขาเอาจริง
หญิงงามในชุดสีแดงจัดไม่ตอบว่าอะไร
นางเพียงแต่ระบายรอยยิ้มที่มุมปาก
 
“ หิมะหยุดแล้วพวกเจ้าก็รีบๆ กลับกันซะ   ก่อนที่จะดึกไปกว่านี้   พักอยู่ในปราสาทขาวกันแท้ๆ แต่ยังออกมาเพ่นพ่านกันกลางดึก   ระเบียบของโอรีเวียคงหย่อนยานมากสินะ ”
 
ฟิโลโซเฟอร์ลุกขึ้นทันที
เด็กๆ คนอื่นก็ลุกตามอย่างว่องไว
 
“ ไม่กลับพร้อมกันหรือ ”
 
เขาหันมาถามพ่อมดน้อย
 
“ ถ้าจำไม่ผิด   บ้านข้าอยู่คนละฟากกับบ้านของเจ้า   กลับพร้อมกันก็ประหลาดละ ”
 
เด็กชายจึงกล่าวลาแม่สาวชุดแดงคนนั้น
แล้วออกเดินนำหน้าเพื่อนๆ ในกลุ่มไป
 
“ แม่นาง   เจ้าผู้ทำเพื่อคนอื่นอยู่เสมอแล้วมีใครทำเพื่อเจ้าบ้าง   มีใครเห็นอกเห็นใจเจ้าบ้าง ”
 
นางกระซิบกับเลโอน่า
เมื่อเด็กสาวเดินผ่านไป
 
“ หยุดทำแบบนั้นเสียที ”
 
ดารีลพูดเบาๆ แต่ทว่าเข้มขรึม
เขายืนกอดอกมองเด็กๆ จากกรอบประตู
แล้วตวัดสายตากลับมาทางสตรีชุดแดงผู้เลอโฉม
 
“ ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถควบคุมดินฟ้าอากาศได้แต่   แบบนี้ไม่ก้าวก่ายเกินไปหน่อยหรือ ”
 
นางต่อว่าดารีลเมื่อเด็กๆ จากไปจนหมดแล้ว
 
“ ก้าวก่ายใครล่ะวอเรน่า   หิมะนี่ไม่ได้ตกเองตามธรรมชาติ   หรือไม่จริง   ข้าต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายถามว่าเจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ ”
 
สตรีชุดแดงกระพริบตาปริบๆ สีหน้างุนงง
 
“ นี่เจ้าตั้งชื่อให้ข้าอย่างนั้นหรือ ”
 
“ ถ้าเจ้าไม่ชอบ   ข้าเปลี่ยนให้ใหม่ก็ได้ ”
 
ดารีลว่า
 
“ ก็แหมทำไมจะไม่ชอบล่ะ   เจ้าเรียกอย่างไรข้าก็ชอบทั้งนั้น   จริงไหมจ๊ะพ่อหนุ่มน้อย ”
 
นางทำเสียงเย้ายวน
 
ดารีลไม่สนใจ
เขายกกาน้ำชาขึ้นเขย่าแล้วเทลงถ้วยทั้งสองใบ
แล้วเลื่อนถ้วยหนึ่งไปให้แม่สาวคนนั้น
 
“ ทำแบบนั้นน้ำชาก็ขุ่นกันพอดี ”
 
นางท้วง
 
“ ก็เล่นบดชาเสียละเอียดขนาดนั้น   แล้วยังไม่คิดเอาผ้ากรองห่อไว้ด้วย   เอาเถอะตั้งไว้เดี๋ยวก็ตกตะกอนเอง ”
 
เขาว่าแล้วนั่งลงตรงหน้า
เลื่อนชาอีกถ้วยมาใกล้ๆ ตัวเอง
 
“ ถามจริงเหตุใดจึงชอบยุ่งกับเด็กๆ ของข้า ”
 
ดารีลถามตรงๆ
 
“ ตายจริงเด็กของเจ้าเสียเมื่อไหร่   แหมข้าหวังดีหรอก   แล้วเด็กๆ ก็ตามข้ามาเอง   ข้าน่ะตั้งใจจะเลี้ยงขนมและน้ำชาจริงๆนะ   เพียงแต่ข้าหยิบชาผิดห่อเท่านั้นเอง   เรื่องแค่นี้ถึงกับโกรธกันด้วยหรือ ”
 
“ ข้าต้องเชื่อหรือเปล่า ”
 
“ ไม่รู้ทำอย่างไรเด็กๆ พวกนั้นจึงไว้ใจเจ้านัก   ข้าพยายามอยู่ตั้งนานกลายเป็นกลัวข้าไปเสียได้ ”
 
หญิงงามบ่น
 
“ พวกเขาฉลาดพอที่จะเห็นความอำหิตในสายตาของเจ้าอย่างไรล่ะ ”
 
ดารีลว่า
 
“ ว่าแต่เจ้าเถอะทำไมมาที่นี่ได้   หรือแท้จริงแล้วคอยเฝ้ามองข้าอยู่   ต่อหน้าทำชิงชังลับหลังแอบชอบข้าใช่มั้ย   ไม่เอาน่า   ข้าน่ะชอบคนกล้าหาญ   ถ้าเจ้าขอข้าดีๆ บางทีเราอาจจะ ”
 
ไม่เพียงแต่เสียงของนางที่เชิญชวน
ท่าทางของนางก็เย้ายวนพอกัน
 
นางโน้มกายเข้ามาลากนิ้วยาวผ่านลำคอขาวเนียนของพ่อมดน้อย
แล้วมาหยุดที่ปลายคางเรียวได้รูป
 
บังคับให้เขาเชิดหน้าขึ้นช้าๆ
ก่อนที่ริมฝีปากสีแดงสดจะประกบลงมา
ดารีลก็ปัดมือนั้นออกพลางเอียงร่างหลบ
 
“ ว้า เจ้านี่เด็กซนจริงๆ แต่แบบนี้แหละยิ่งหนีข้าก็ยิ่งอยากได้ ”
 
“ เจ้ายังไม่ให้คำตอบเรื่องเด็กๆ กับข้าเลย ”
 
หนุ่มน้อยหน้ามนทวง
 
“ ห่วงแต่เด็กๆ เข้าไปเถอะ   ว่าแต่เจ้าหญิงแสนสวยของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง   สบายดีอยู่หรือ ”
 
มีดพกสีดำตวัดไปจ่อที่คองามระหงของนางทันที
เขาลุกพรวดขึ้นยืนค้ำร่างนางเอาไว้
 
“ อย่าเอ่ยถึงนาง   และอย่าให้ข้าได้ยินว่าเจ้าทำนายอะไรไปถึงนาง ”
 
“ ดารีลจ๊ะดารีลจ๋า   เล่นของมีคมกับผู้หญิงบอบบางไร้ทางสู้แบบนี้   ช่างไม่น่ารักเอาเสียเลย ”
 
นางทำเสียงเล็กเสียงน้อย
แต่ชม้อยชายตาขึ้นมองอย่างท้าทายนิดๆ
 
“ อย่าให้ข้าต้องพูดซ้ำ ”
 
ดารีลเสียงเข้ม
 
“ ก็ได้ๆ ข้าจะไม่แตะของรักของหวงของเจ้า   เว้นเสียแต่นางจะเต็มใจ ”
 
นางว่าพลางใช้สองมือดันมีดเล่มนั้นออก
ดารีลเหลือบไปมองลูกแก้วสีแดงที่วางอยู่บนโต๊ะ
เขาเขม้นมองลึกเข้าไปในเงาดำมืด
 
“ เจ้าสนใจลูกแก้วพยากรณ์หรือ   ข้าสอนให้เอาไหม   หรือเจ้าอยากรู้อนาคตข้างหน้าข้าก็สามารถช่วยได้ ”
 
“ ชีวิตข้า   ข้ากำหนดเอง ”
 
หนุ่มน้อยบอก
 
“ แท้จริงแล้วเหตุผลที่เจ้ามาที่นี่คืออะไรกันแน่   เจ้ารู้ดีถึงอำนาจของข้า   เหตุนี้ใช่ไหมจึงมาวนเวียนอยู่ไม่ห่าง   เจ้าปรารถนาสิ่งใด   อำนาจยิ่งใหญ่หรือความรอบรู้ไม่สิ้นสุด ”
 
ดารีลไม่ตอบ
เขายกถ้วยชาขึ้นจิบใบหน้างดงามนั้นเอียงเล็กน้อยคิ้วสองข้างขมวดเข้าหากัน
มันบ่งบอกถึงความผิดปรกติในถ้วยชานั้น
 
“ ทำไมล่ะไม่อร่อยหรือ ”
 
เสียงของนางมีแววผิดหวัง
 
“ ลองชิมถ้วยของเจ้าสิ ”
 
นางจึงยกขึ้นจิบบ้าง
ดารีลเอกก็ยกขึ้นจิบอีกครั้งสี
หน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ข้องใจแล้วก็หัวเราะออกมา
 
“ กลิ่นว่าสยองแล้วรสชาติยังสยองกว่าอีก   คิดจะวางยาทั้งทีไม่ปรุงไห้ดีกว่านี้ใครจะกลืนลง ”
 
นางยกรวดเดียวหมดถ้วยแล้วยิ้มหวาน
 
“ ก็ไม่ได้แย่เสียหน่อยเจ้าน่ะพูดเกินไปละ   แต่ก็นะรู้ทั้งรู้ยังกล้าดื่ม   ตกลงแกล้งบ้าหรือบ้าจริงกันแน่ ”
 
“ ยาพิษพวกนี้ไม่ได้ผลกับข้าหรอก   เจ้าเองก็รู้เรื่องนี้ดีนี่นา   ว่าแต่ใส่อะไรไปบ้างล่ะเล่นบดละเอียดแบบนี้ข้ามองไม่ออกเลย ”
 
ดารีลว่าพลางเลื่อนถ้วยชาของนางมาดูใกล้ๆ
 
“ ถ้าเจ้าอยากรู้ล่ะก็”
 
สตรีชุดแดงผู้เลอโฉมลุกขึ้นเดินนวยนาดไปค้นของบางอย่างในหีบหนัง  
 
ดารีลจับถ้วยของนางคว่ำลงหมุนก้นถ้วยด้วยปลายนิ้วไปเรื่อยๆ
 
นางกลับมาพร้อมกับผ้าห่อเล็กและหนังสือปกหนาขึ้นราสีขาวเป็นปุยนุ่น
จัดการวางลงตรงหน้าคนอายุน้อยกว่าพลางกล่าวเชื้อเชิญ
 
“ แกะดูสิ”
 
“ หมายถึงห่อนี่หรือ ”
 
ดารีลสงสัย
 
“ หรือเจ้าอยากแกะอย่างอื่นล่ะ ”
 
ไม่ว่าเปล่านางก้มลงแล้วโน้มตัวเข้ามาใกล้
เผยช่วงอกที่ขาวฟูให้ปรากฏตรงหน้า
 
“ รอเดี๋ยวนะเมื่อครู่ทำมีดหล่นไปไหนแล้ว   เรื่องแกะต้องยกให้ข้า   จะคว้านออกมาทั้งไส้เลย ”
 
เด็กหนุ่มรูปงามว่า
ทำทีเป็นเสมองหาของใต้โต๊ะ 
 
“ แหม่   เจ้านี่ไม่สนุกเอาเสียเลย ”
 
นางทำเสียงแสนงอน
นั่งลงด้วยใบหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย
 
“ แน่ใจหรือว่าไม่อยากฟังคำทำนายจากข้า ”
 
สตรีแสนงามเริ่มหมุนลูกแก้วสีแดงเล่น
 
“ ถ้าข้าต้องมาฟังเรื่องเหลวไหลล่ะก็ข้ากลับดีกว่า ”
 
ดารีลลุกขึ้นพร้อมกับเปิดถ้วยชา
แล้วเลื่อนกลับไปให้แม่สาวชุดแดง
 
“ และนี่คือชะตาของเจ้า ”
 
ดารีลว่า
ในจานรองถ้วยนั้นมีกากชาสีดำเรียงตัวกันเป็นวงกลม
เรียบรื่นไร้รอยสะดุด
 
“ ไม่มีเบื้องต้นไม่มีเบื้องปลายเจ้าติดอยู่ในวังวนของตัวเอง   ไม่มีทางหลุดพ้นและไม่มีผู้ใดช่วยเหลือได้ ”
 
“ เจ้าแอบทำนายข้าหรือ ”
 
เสียงของนางราบเรียบสองมือวางบนโต๊ะ
รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้า
 
“ แทงใจหรือไง   แต่คำทำนายของข้าไม่เป็นพิษหรอกอย่าได้กลัวไป   หมดธุระแล้วข้ากลับล่ะช่วงนี้งานยุ่งเหลือเกิน   แต่ก็ขอบคุณที่ให้ยืมหนังสือแล้วข้าจะรีบเอามาคืน ”
 
ดารีลรวบเอาของทั้งหมดแล้วเดินโฉบออกไปทันที
 
“ อย่าให้รอนานล่ะข้าน่ะคิดถึงเจ้าทุกคืนเลย ”
 
นางทำเสียงระรื่น
รอยยิ้มมากเล่ห์กลับมาระบายบนใบหน้าอย่างรวดเร็ว
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา