โอรีเวีย 2 ( ล่มสลาย )

6.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.40 น.

  43 บทที่
  2 วิจารณ์
  23.08K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ซาเหวจลอร์ด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
เมื่อความขัดแย้งทำท่าจะบานปลาย   เพราะทุกคนต่างอ้างสิทธิ์ของตนและไม่มีใครยอมใคร   สุดท้ายก่อนที่จะเกิดการประทะกันขึ้น   ดารีลก็บอกความประสงค์ว่าจะไปและสัญญาว่าจะกลับมาในเวลาไม่นาน   นั่นเองที่ทำให้ลอร์ดเดเวอร์ลอสพอใจยอมปล่อยให้เป็นตามนั้น
 
“ บางครั้งข้าก็นึกสงสัยลอร์ดเดเวอร์ลอสรักดารีลจริงหรือเปล่า   หรือแค่ต้องการเก็บไว้ใช้งานเพียงเท่านั้น   เขาไม่นึกถึงความรู้สึกของหลานชายเพียงคนเดียวแม้แต่น้อย ”
 
อีเลียสตั้งข้อสังเกต
 
“ กษัตริย์เอลาดอนแห่งอันดอรีสก็เหมือนกันนั่นแหละดึงดันจะเก็บเขาไว้ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์อันใด ”
 
ฟีไลร่าว่าบ้าง
 
“ ทุกคนก็คิดถึงแต่ตัวเองกันทั้งนั้นมิใช่หรือ ”
 
เลโอน่าว่า
สีหน้าเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่าง
 
“ ช่างเถอะข้าไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้นข้าอยากรู้แค่ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ที่อันดอรีส   พวกเจ้าช่วยรวบรัดหน่อยไม่ได้หรือ ”
 
เด็กชายชาวซีนาร์ยเริ่มขัดใจ
เรารู้ว่าเพื่อนๆ กำลังถ่วงเวลา
 
“ เจ้าอยากรู้ตอนไหนล่ะ ”
 
โลธอร์ถามทั้งที่ปากยังเคี้ยวตุ่ยๆ
 
“ ก็ตอนที่เกิดเรื่องน่ะสิ ”
 
“ ได้   อีเลียสเล่าไป ”
 
เด็กชายร่างอ้วนโยนภาระไปให้เพื่อนหน้าตาเฉย
 
“ ห๊า   แบบนี้ก็ได้หรือ ”
 
เด็กน้อยคนนั้นทำตาโต
รู้สึกตกใจเพราะเขายังเรียบเรียงเรื่องราวให้ฟังดูเบาๆ ลงไม่ได้
 
“ เจ้านั่นและอีเลียสพูดมา ”
 
ฟิโลโซเฟอร์ทำเสียงขู่
เขาเชื่อว่าอีเลียสนั้นรู้ดีไปเสียทุกอย่าง
จึงสมควรเป็นคนเล่าความจริงทั้งหมด
 
“ คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ ”
 
อีเลียสพูดเท่านั้นแล้วก็ทำท่าอ้ำอึ้ง
เปิดสมุดปกแข็งที่ถือติดตัวอยู่เป็นนิจขึ้นมาอย่างวุ่นวาย
แต่ก็นึกไม่ออกว่าควรเปิดไปหน้าใด
 
“ อีเลียส ”
 
โลธอร์ทำเสียงดุ
เขาจึงเงยหน้าขึ้น
และพบกับสายตาแห่งความคาดหวังจากเพื่อนๆ ทุกคน
 
“ โอ๊ยตาย   ทำไมต้องเป็นข้าพวกเราอยู่ด้วยกันแท้ๆ ”
 
เด็กชายร่างผอมถอนหายใจเฮือก
 
“ ได้ๆ ข้าไม่รู้อะไรหรอก   ดังนั้นจะเล่าแค่ในส่วนที่ข้าเห็นเท่านั้น ”
 
เพื่อนๆ ต่างพยักหน้า
 
“ มันเกิดขึ้นตอนช่วงบ่ายของวันนั้น   พวกเขาเคลื่อนร่างของเจ้าหญิงลูเซียน่าไปยังสุสานหลวง   โชคดีมากเลยที่เราไม่ใช่แขกคนสำคัญเลยอยู่ไกลหน่อย   ตอนที่กำลังทำพิธีเปิดอุโมงค์นั่นแหละที่เจ้าปีศาจร้ายปรากฏกายขึ้น ”
 
“ ใช่ตอนแรกข้าคิดว่ามันคือมังกร   ผ่าสิพอมันแหกปากร้องเท่านั้นแหละเล่นเอาฉี่แทบราด ”
 
โลธอร์เสริม
 
“ อะไรเคอร์คารอลน่ะหรือ   อย่าบอกนะว่ามันไปที่นั่น ”
 
ฟิโลโซเฟอร์ตกใจ
 
“ ใช่   มันยืนอยู่เหนือร่างของเจ้าหญิงลูเซียน่า ” 
 
อีเลียสเล่าต่อ
 
“ สิ้นเสียงร้องของมันเหล่ามังกรก็บินมาเต็มท้องฟ้าแล้วความอลหม่านก็เริ่มต้นขึ้น ”
 
“ มันอลหม่านตั้งแต่เคอร์คารอลโฉบลงมาแล้ว   แถมช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนั้นเจ้ายังมาหายไปอีก   แทนที่จะจับกลุ่มกันไว้ดันมาหายตัวไปซะนี่ ”
 
เด็กชายร่างอ้วนต่อว่า
 
“ ข้าหายไปที่ไหนกันเล่า   แต่ไปหาที่ซ่อนเท่านั้นเอง   ที่รอดจากการถูกไฟคลอกก็เพราะข้ามิใช่หรือ   ข้าหวังดีทำเพื่อทุกคนแล้วยังต้องโดนบ่นอีกหรือ ”
 
คู่หูของเขาเถียง
 
“ อยู่ๆ หายไปดื้อๆ แบบนั้นไม่เตือนเพื่อนก่อนล่ะ   แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่ามันตั้งใจมาเผาที่นั่น ”
 
“ โธ่เอ๋ย   มังกรไฟบินมาทั้งรังคงไม่ได้มาร้องเพลงให้ฟังหรอกนะ ”
 
“ เดี๋ยวๆ เรื่องมันอย่างไรกันแน่   อย่าเพิ่งทะเลาะกันสิ   สรุปมันเกิดอะไรขึ้นแล้วมันจบอย่างไร ”
 
ฟิโลโซเฟอร์ท้วงด้วยความร้อนใจ
 
“ ก็ตามนั้นแหละ ”
 
เลโอน่าว่า
 
“ ฝูงมังกรบุกมาทำลายพิธี   มันปิดล้อมเผาสุสานจนราบ   มีคนเจ็บคนตายมากมายและพวกเราเป็นหนึ่งในนั้นที่หนีรอดออกมาอย่างปลอดภัยเจ้าควรสบายใจได้แล้ว ”  
 
นางสรุป
 
“ เดี๋ยวนะ   แล้วดารีลล่ะไม่เห็นเล่าเกี่ยวกับเขาเลย ”
 
เด็กชายชาวซีนาร์ยท้วง
 
“ ข้าไม่เห็นหรอกเขาอยู่กับจอมเวทวาลานอย่างไรล่ะใครเข้าใกล้ได้เสียที่ไหนกัน ” 
 
“ จอมเวทวาลานไม่ได้อยู่ที่นั่น   ไม่ได้ไปอันดอรีสด้วยซ้ำ ”
 
ฟีไลร่าว่า
น้ำเสียงสั่นครือ
 
เด็กชายชาวซีนาร์ยหัวใจหล่นวูบ
เขารู้ว่าในเวลานั้นดารีลไม่มีทางคิดหนี
 
เขาเชื่อมันว่าแค่มังกรฝูงเดียวทำอะไรหนุ่มน้อยคนนั้นไม่ได้อย่างแน่นอน
แต่ปัญหาใหญ่คือดารีลกำลังคิดอะไรอยู่
อยากสู้หรืออยากทำอย่างอื่น
 
“ พวกเจ้ารู้ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา   บอกมาสิจะโกหกข้าไปทำไม ”
 
เด็กชายแผดเสียง
 
“ ฟิลอสน้อย   อย่ารู้เลย   เจ้าแค่คิดว่าหมอนั่นออกเดินทางไกลไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งตามลำพัง   แบบนี้ไม่ดีกว่าหรือ ”
 
เด็กชายร่างอ้วนบอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
 
“ ไม่   อีเลียสบอกมาเดี๋ยวนี้ ”
 
“ ข้าไม่รู้   ข้าเป็นคนขี้ขลาดมุดอยู่ในกระดองไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ”
 
เด็กชายร่างผอมแห้งพูดด้วยอารมณ์กลัดกลุ้ม
 
“ เขาฝ่าเปลวไฟที่ลุกท่วมเข้าไปหาเจ้าหญิงลูเซียน่า   เข้าไปหาเคอร์คารอลที่ยืนผงาดคร่อมร่างนางอยู่ ”
 
ฟีไลร่าเป็นคนพูดออกมา
 
“ แล้วก็ไม่กลับออกมาอีกเลย   เมื่อไฟสงบลงเมื่อปีศาจร้ายจากไปแล้วพวกเราไม่พบอะไรเลย   ทั้งร่างเจ้าหญิงลูเซียน่าและตัวเขาเอง ”
 
“ ก็ไฟร้อนแรงขนาดนั้นชุดเกราะของทหารยังหลอมละลายกระดูกจะไปเหลือหรือ ”
 
อีเลียสว่าแล้วก้มหน้า
 
เด็กชายชาวซีนาร์ยใจหายวาบ
เขานึกแล้วว่าเคอร์คารอลต้องเดาออกว่าควรทำเช่นไรดารีลจึงจะพุ่งเข้าไปหา
แต่หนุ่มน้อยคนนั้นจะโง่จนหน้ามืดขนาดนั้นเลยหรือ
 
“ หลังจากเขาเข้าไปแล้วเกิดอะไรขึ้น   อย่างเช่นสะเก็ดน้ำแข็งหรือลมที่พัดประหลาดๆ ”
 
ฟิโลโซเฟอร์ยังมีความหวัง
 
“ มีสิ   พอเจ้านั่นเข้าไปไฟก็โหมแรงขึ้นแทบจะเผาทุกอย่างในนั้นให้เป็นจุล   ข้าเองเฝ้าให้เขากลับออกมาแต่รู้ไหมใครกันที่กระโจนสวนออกมาในทางเดียวกัน ”
 
อีเลียสหยุดพูดครู่หนึ่ง
 
เด็กชายชาวซีนาร์ยกลั้นหายใจ
ขออย่าให้เป็นคนผู้นั่นเลยนะ
 
“ ซาเหวจลอร์ด ”
 
อีเลียสบอกเสียงเย็น
 
“ ซาเหวจลอร์ดตายมาชาติหนึ่งแล้ว   ใยเจ้าว่าเป็นเขา ”
 
สหายร่างอ้วนแย้ง
 
“ แล้วจะให้เรียกอย่างไรล่ะ   คนที่สวมหน้ากากอสูรกายผู้มาพร้อมกับเปลวเพลิงและหายนะ   เมื่อเขาปรากฏกายขึ้นเสียงเห่าหอนของความตายก็ดังระงมไปทุกย่างก้าว   มันคือซาเหวจลอร์ดที่หลุดออกมาจากในตำนานชัดๆ ออกมาแล้วก็พุ่งเข้าใส่กลุ่มผู้ใช้เวทมนตร์ทันที   อย่างกับโกรธแค้นกันมานมนานใครขวางหน้าตายหมดไม่เว้นแม้สักคนเดียว   สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากซาเหวจลอร์ดคนก่อนคือความแค้น   พวกเจ้าเข้าใจไหมฆ่าแบบแค้นสุดๆ นะไม่ได้ฆ่าแบบอยากจะฆ่าไม่ได้ฆ่าเพื่อความสนุก   ข้ายังคิดไม่ตกว่าพวกผู้ใช้เวทมนตร์ไปทำอะไรใครไว้จึงต้องถูกตามมาเล่นงานขนาดนี้ ”
 
“ โชคดีที่มันเกิดขึ้นไม่นานเขาโจมตีระรอกเดียวแล้วกระโดดขึ้นหลังเคอร์คารอลพาพวกมังกรบินหนีไป ”
 
เลโอน่าว่าบ้าง
 
“ ข้าว่าจอมเวทวาลานต้องมีหนาวบ้างล่ะ   คนผู้เดียวกระโจนเข้ากลางวงแล้วทำผู้ใช้เวทมนตร์ร่วงเป็นใบไม้ในหน้าแล้งได้   อย่างกับมือสังหารแหนะ ”
 
โลธอร์กล่าว
 
“ พวกเราก็สมควรหนาวเช่นกัน   พนันได้เลยเขาจะไม่จบแค่นั้น   นี่เป็นแค่การเปิดตัวบางทีการสิ้นชีวิตของเจ้าหญิงลูเซียน่าอาจอยู่ในแผน   ล่อให้คนไปรวมกลุ่มกันมากๆ แล้วจัดการทีเดียวเลย   ถ้าเป็นเช่นนั้นเราต้องระวังกลุ่มคนโดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้เวทมนตร์พวกนั้นเป็นเป้าหลักอย่างแน่นอน ”
 
อีเลียสบอก
 
“ แล้วพวกเจ้ารอดมาได้อย่างไร ”
 
ฟิโลโซเฟอร์ถาม
 
“ ก็แต่มังกรกับลูกไฟ   มังกรตัวใหญ่การโจมตีเอาแน่เอานอนไม่ได้   พวกเราแค่หาที่หลบดีๆไม่วิ่งหนีสุ่มสี่สุ่มห้า   โชคดีที่ไม่มีผีร้ายมาร่วมวงด้วยไม่อย่างนั้นคงมานั่งกินลมชมวิวแบบนี้ลำบาก ”
 
โลธอร์ตอบให้
 
“ ข้าจะเข้าเมืองไปหาดารีลที่บ้าน   พวกเจ้ายังรอดมาได้เขาก็ต้องรอดได้   อาจะติดธุระเลยกลับมาช้าหน่อย ”
 
เด็กชายตัวน้อยว่า
 
“ นี่เจ้าไม่เข้าใจอีกหรือไง   หมอนั่นไม่คิดช่วยใครเลยแค่เดินเข้ากองไฟไปเฉยๆ เจ้าไม่นึกไม่ออกหรือว่ามันหมายความว่าอย่างไร ”
 
เลโอน่าเริ่มหงุดหงิด
 
“ ข้าเคยเห็นเขาสู้กับเวทมนตร์แห่งไฟตอนอยู่ในโอรีเวีย ”
 
เขายังยืนยันความคิดเดิม
 
“ ใช่  ดารีลของเจ้าเก่งจริง   แต่การที่เขาเดินฝ่าเข้าไปแบบนั้นทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาตั้งใจฆ่าตัวตาย   เจ้าคิดว่าอย่างไร   คนอยากตายจะรอดชีวิตจากตรงนั้นได้หรือ   เจ้าเองก็รู้จักเขาดีนี่   เขาเดินเข้าไปหาเคอร์คารอลและแน่นอนซาเหวจลอร์ดผู้ต้องการสังหารผู้ใช้เวทมนตร์อย่างแรงกล้าก็อยู่ที่นั่น   ทุกอย่างเงียบเชียบไร้การขัดขืนไร้การต่อสู้   เจ้าคิดว่าอย่างไร ”
 
อีเลียสกล่าวอย่างใจเย็น
 
ฟิโลโซเฟอร์ได้แต่คิดทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
รู้สึกหนักอึ้งและมืดมน
 
“ ไม่จริงหรอก   ข้าไม่เชื่อ   ข้าจะไปตามหาเขาดารีลก็แค่เบื่อไม่อยากเจอหน้าผู้คนเท่านั้นเอง ”
 
“ ใครเล่าไม่ตามหา   ลอร์ดเดเวอลอสก็วุ่นวายใหญ่   แม้แต่จอมเวทวาลานพลิกแผ่นดินหามาแล้วยังไม่พบแม้แต่เถ้ากระดูก   เจ้าเป็นใคร   เวลาอย่างนี้อย่าเพิ่งเสียสติไปอีกคนเลย   เรื่องร้ายแรงกำลังจะเกิดพวกเราต้องตั้งมั่นเอาไว้จึงจะอยู่รอด ”
 
อีเลียสเตือนสติ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา