เอ็กซ์ทีน

8.0

เขียนโดย นางแกงพเนจร

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 18.31 น.

  15 บท
  1 วิจารณ์
  3,979 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 เมษายน พ.ศ. 2567 18.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) โคมไฟบ้านมึงทำจากไวเบรเนี่ยมเหรอวะ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
19 มีนาคม 2553
บันทึกของฟ่า
 
          หลังสีขาวสามเหลี่ยมหน้าจั่วสองชั้นกับแดดสายใกล้เที่ยงตรง ร้อนกำลังดี ร่างท้วมเตี้ย ผมสั้น ตาตี่ สวมเสื้อยืดกับกางเกงผ้าระบายขาสั้น สีหน้างัวเงีย ยืนสะบัดผ้าก่อนแขวนตากบนราวตากผ้าอยู่ตรงริมรั้วบ้านที่ค่อนข้างกว้างเป็นพิเศษ
 
     แต่แล้ววันแสนธรรมดากลับทำให้ร่างที่ไร้วิญญาณตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงดังลั่นพร้อมกับร่างเด็กหนุ่มที่นอนแนบประตูรั้วบ้านพอดิบพอดี ร่างท้วมเตี้ยสังเกตเห็นบางสิ่งหล่นลงมาแตก เขาหันหน้ากลับไปมองร่างสูงโปร่งหน้าตาคล้ายคนแขกทันที
 
“เชี่ย” ผู้ที่นอนแนบกับรั้วประตูอุทานขึ้น ทั้งสองคนสบตากันก่อนที่อีกฝ่ายจะใช้ความเร็วเคลื่อนไหวราวกับหายตัวไป ทิ้งไว้เพียงเศษซากอารยธรรมกับความโกรธเกรี้ยวเจ้าของบ้าน
“ไอ้ทีม!! ไอ้ห่า ทำเสาโคมไฟหน้าบ้านกูพังแล้วชิ่งเหรอวะ!”
 
2 ชั่วโมงต่อมา...
 
“แม่งโคตรหงุดหงิดเลย สันดานเxี้ยชิuหาย ทำของคนอื่นเขาพังแล้วไม่รับผิดชอบ” ร่างท้วมเตี้ยยืนบ่น ขณะที่หนุ่มแว่นร่างสูงใหญ่กำลังใช้พลังควบคุมอุปกรณ์ซ่อมแซมอันทันสมัยแก้ไขและเชื่อมเสาโคมไฟราคาแพงให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ท่ามกลางเพื่อน ๆ ที่ยืนรายล้อมบริเวณหน้าบ้าน
“แม่งจงใจหาเรื่องอะดิ” หน้าตี๋ตาโตพูดเสริม
“มันพังของบ้านเรา เราก็ไปพังบ้านมันคืนดิ พี่สาวมันออกมาเก็บผ้าหน้าบ้านทุกเย็น มึงว่าไง ไอ้ฟ่า” หน้าลูกครึ่งสูงล่ำเสนอแผนการ
“ไอเดียมึงดีมาก ไอ้แวน คราวนี้กูจะเอาคืนให้พวกมึงสามพี่น้องอยู่กันไม่ได้เลย” ร่างท้วมเตี้ยพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บแค้น
 
1 ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
 
     แสงแดดยามเย็นสาดส่องมาที่บ้านสามเหลี่ยมหน้าจั่วสีขาว ประตูรั้วสีน้ำเงิน เผยให้เห็นร่างของเด็กสาวคนหนึ่ง ใบหน้าคมเข้มเหมือนคนแขก ผมหยิกยาวสีดำ รูปร่างอวบอิ่มดูเจ้าเนื้อ เธอถือตะกร้าใบใหญ่สีเขียวมินต์สำหรับใส่ผ้าเดินออกมาที่บริเวณหน้าบ้านภายในรั้ว สายตาของเธอสังเกตเห็นกลุ่มเด็กผู้ชายหลายคนที่คุ้นหน้ากำลังเล่นเตะบอลกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงดัง และดูวุ่นวายมาก
 
     เด็กสาวทำเป็นไม่สนใจและบรรจงทำกิจวัตรของเธอต่อ เพียงครู่เดียว เสียงโหวกเหวกเล่นกันนั่นดังขึ้นและวุ่นวายมากขึ้นราวกับมีใครยกลำโพงตัวใหญ่มาจ่อที่หน้าบ้านของเธอ
 
“เสียงเบาลงหน่อยได้ไหมคะ สนามหญ้ากว้างมาก ตรงนี้มันรบกวนคนอื่นเขาค่ะ ถ้าจะใช้เสียง เล่นกันแถวบริเวณหน้าบ้านพวกเธอก็ได้นะคะ” ร่างผมหยิกสีดำตะโกนข้ามรั้วออกไปด้วยความหงุดหงิด กลุ่มเด็กผู้ชายตรงหน้าหยุดฟังสิ่งที่เธอพูดแล้วเล่นกันต่อไม่สนใจ
“ว๊ายย” เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ ลูกบอลเตะอัดเข้ามาที่รั้วบ้านขณะที่เธอกำลังหันไปเก็บผ้าบนราวตากผ้าต่อ
“ขอโทษคร้าบ พอดีมันพลาด เดี๋ยวจะระวังมากขึ้นนะครับ ผมขอเก็บบอลนะครับ” ร่างท้วมเตี้ยวิ่งเขามาขอโทษเด็กสาว สีหน้าดูอมยิ้มสนุกสนาน ร่างผมหยิกสีดำไม่อยากมีปัญหาจึงหันไปเร่งเก็บผ้าให้เสร็จโดยเร็วเพื่อจะได้รีบกลับเข้าไปในบ้าน
“กรี๊ดดด!!!!!!!” หน้าคมเข้มของเด็กสาวกรีดร้อง เมื่อลูกบอลอัดกระแทกใส่รั้วบ้านรุนแรงขึ้นกว่าครั้งแรก ทำเอาเธอตกใจ
“นี่!! มีปัญหาอะไรกันปะคะ?” เด็กสาวเริ่มโมโห
“ไม่มีครับไม่มี พวกผมเล่นกันไม่ดีเอง มันเลยพลาด ขอโทษน้า เดี๋ยวเอาใหม่” หนุ่มลูกครึ่งวิ่งเข้ามาหาเธอ ส่งยิ้มแต่รู้สึกได้ถึงความไม่จริงจังก่อนจะเก็บบอลกลับไป
“ยิงใหม่เว้ย ลูกโทษ ลูกโทษ!” สิ้นเสียงของร่างท้วมเตี้ย เขาเคลื่อนขาขวาอย่างชำนาญเตะลูกบอลอัดเข้าไปที่รั้วบ้านอีกครั้งอย่างตั้งใจ ใกล้หน้าเด็กสาวจนเธอสะดุ้งด้วยความตกใจ
 
     กลุ่มเด็กผู้ชายหัวเราะชอบใจอย่างสนุกสนาน จังหวะนั้นบางอย่างเคลื่อนที่ด้วยความเร็วจนแทบมองไม่เห็นพุ่งผ่านทุกคนเผยฝ่าเท้าถีบอัดร่างท้วมเตี้ยจนกระเด็นกลิ้งลงกับพื้นสนามหญ้าทันที
 
“พวกมึงแกล้งอะไรพี่กูวะ?!” ทีมปรากฏตัวขึ้น ร่างสูงโปร่งยืนประจันหน้าเด็กผู้ชายรุ่นเดียวกันประมาณเจ็ดคน
“เอาคืนไง ไอ้ห่าตัวไหนทำของคนอื่นเขาพังแล้วไม่รับผิดชอบวะ!” ร่างท้วมเตี้ยรีบลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินพุ่งเข้าไปตะโกนใส่ พวกเขายืนห่างกันราวสามสิบเมตรได้
“ทำอะไรทีม?” เด็กสาวเดินออกมาจากบ้านถามร่างสูงโปร่ง
“เล่นกับเต้ยแล้วทีมเผลอไปทำโคมไฟหน้าบ้านเขาพังอะพี่เก๋” หนุ่มหน้าแขกหันมาสารภาพกับเด็กสาวผู้เป็นพี่
“มึงจะเอาเท่าไหร่ค่าโคมไฟ เดี๋ยวกูจ่ายให้ เสร็จแล้วออกไปไกล ๆ พี่สาวกู กับบ้านกู” ทีมยื่นข้อเสนอเพื่อยุติการวิวาท
“ไอ้ห่า ขอโทษสักคำก็ไม่มี” หน้าตี๋ตาโตพูดแทรก
“แปดร้อยเหรียญให้พ่อมึงโอนมาให้แม่กู ค่าโคมไฟตอนนี้ แล้วกูจบ” ร่างท้วมเตี้ยเสนอราคาค่อนข้างสูงเพื่อจงใจกวนประสาทอีกฝ่าย
“โคมไฟบ้านมึงทำมาจากไวเบรเนี่ยมเหรอวะ ราคาสูงชิuหาย แบบนี้ปล้นกันชัด ๆ !” ทีมพูดสวนกลับทันที
“เออทำจากไวเบรเนี่ยม มึงบอกจะจ่ายไม่ใช่เหรอ จ่ายมาดิ” ร่างท้วมเตี้ยพูดและฉีกยิ้มด้วยความสะใจ
“พวกกูอยู่กันสามคนไม่ยุ่งกับใคร กะเลวกะลาดอย่างพวกมึงเสืoกมาวุ่นวายกับพวกกูทำไม?” เก๋เดินออกมายืนข้างหน้าน้องชายด้วยความหงุดหงิด
“พวกมึงรู้กฎของวิลเลจใช่ปะ ว่าถ้าฆ่ากันตายในนี้ไม่มีความผิด เขาสนใจแค่พวกที่อยู่รอด” สาวผมหยิกสีดำพลางพูดพร้อมกับขยับมือข้างขวา เกิดคลุมควันสีดำก่อตัวขึ้นทั่วบริเวณพื้นสนามหญ้า ใต้ฝ่าเท้าของกลุ่มเด็กผู้ชาย
“พวกมึงระวังตัว ยัยเก๋จะใช้พลัง” หนุ่มใส่แว่น หน้าตาน่ารัก ได้ยินความคิดของอีกฝ่ายจึงรีบเตือนเพื่อนทุกคน
“แปดร้อยเหรียญใช่ปะ งั้นเดี๋ยวกูโอนให้เป็นค่าทำขวัญงานศพพวกมึงแล้วกัน!” สิ้นเสียงของเด็กสาว เธอกำมือขวาแล้วยกขึ้นครึ่งซอกก่อนที่กลุ่มควันสีดำทมิฬจะพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินรวมกันเป็นกระจุกก้อนใหญ่กลางสนามหญ้า
 
     สีของควันและปริมาณ มากพอจะทำให้ผู้ที่สูบดมเข้าไปสำลักและเกิดอาการปอดอักเสบอย่างรุนแรงได้เลย เด็กสาวผมหยิกสีดำยิ้มด้วยความสะใจ เธอปล่อยให้กลุ่มควันขนาดใหญ่คละคลุ้งอยู่สักพักก่อนที่จะคลายออก
 
     ภาพในหัวเธอตอนนี้คือร่างอันไร้วิญญาณของพวกเด็กหนุ่มที่นอนเกลื่อนกลาดในสนามหญ้า หรือถ้ารอดก็อาจจะกำลังดิ้นทุรนทุรายสุดแสนทรมาน แต่แล้วสิ่งที่คิดกลับไม่เป็นอย่างที่เห็น ม่านมวลน้ำขนาดใหญ่ครอบกลุ่มเด็กผู้ชายทั้งหมดเอาไว้จนกลุ่มควันไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปได้
 
     หน้าลูกครึ่งประกายตาเป็นสีฟ้า ฝ่ามือทั้งสองแผ่ออกควบคุมมวลน้ำเป็นโล่ป้องกันตัวเขาและเพื่อน ๆ ก่อนที่รวบรวมมวลน้ำมหาศาลเพื่อระเบิดออกชำระล้างหมอกควันสีดำของอีกฝ่าย
 
“ไม่แรงไปเหรอวะเก๋ แบบนี้ถึงตายเลยนะ” หน้าหล่อใส่แว่นพูดออกไปด้วยความโมโห
“พวกมึงมาหาเรื่องอะไรน้องกู!” เสียงตะโกนจากชั้นสองของบ้าน เผยร่างสูงใหญ่ หน้าคมแขก ผิวเข้ม ลอยตัวจากชั้นสองลงมาที่พื้นสนามหญ้าอย่างทรงพลัง
“เด็กเหลือขออย่างพวกมึงมีสิทธิ์อะไรมาหาเรื่องน้องกู” วัยรุ่นหนุ่มที่เพิ่งปรากฏตัวถามต่อ
“พูดจาดี ๆ เป็นไหมวะ คิดว่าตัวเองเจ๋งมากเหรอ!” หน้าหล่อรูปร่างสูงเกิดอารมณ์โมโห เขาระเบิดมือขวาเป็นเปลวไฟร้อนแรง แผ่ซ่านและครอบคลุมเต็มแขนขวา
 
     อีกฝ่ายไม่รอช้ามือซ้ายของร่างสูงใหญ่กำหมัด เกิดสสารสีดำขนาดใหญ่น่าขนลุกทันที ทีมกับเก๋เมื่อได้เห็นสสารนี้ถึงกับก้าวถอยหลัง
 
“มึงเจ๋งมากก็เข้ามาดิ!!! ไอ้Sad” ร่างท้วมเตี้ยฉีกเสื้อยืดก่อนที่รูปร่างเขาจะเปลี่ยนเป็นอมนุษย์ที่มีผิวหนังเป็นหินตะปุ่มตะป่ำคล้ายกับหินแร่ภูเขา พร้อมกับมวลร่างกายที่ขยายใหญ่ขึ้นอีก 2 เท่า
“อะไรกันวะ!!” เสียงแทรกของร่างอวบใส่แว่นวิ่งเข้ามาผ่ากลาง การวิวาทของทั้งสองฝ่าย
“มีปัญหาอะไรกัน พูดกันดี ๆ สิครับ ไม่เห็นต้องลงไม้ลงมือกันเลย บางคนอยู่ด้วยกันในนี้มาตั้งเกือบห้าปี มีอะไรใจเย็น ๆ ค่อยพูดค่อยจากันก็ได้” หน้าตี๋ผิวขาวพยายามห้ามเพื่อยุติการต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย
“มึงไม่ต้องเสืoก” ร่างสูงใหญ่พูดใส่ผู้หวังดี
“ท็อปคร้าบ นี่พีทเอง เพื่อนท็อปไง ท็อปใจเย็นดิครับ เรารุ่นเดียวกันนะ” ร่างอวบพยายามข่มความรู้สึกเพื่อให้อีกฝ่ายใจเย็นลง
“กูไปเป็นเพื่อนกับไอ้กระจอกอย่างมึงตอนไหน?” ท็อปคลายมือสลายสสารมืดระหว่างถามอีกฝ่ายด้วยความเกรี้ยวกราด
“กระจอกครับ ผมมันกระจอก” พีทยิ้มรับคอมเมนต์จากอีกฝ่าย
“ไอ้เxี้ย!!!” สิ้นเสียงของร่างอวบ เขาใช้สองมือยื่นออกไปสร้างแสงสว่างเจิดจ้าอย่างฉับพลันจนบดบังวิสัยทัศน์การมองเห็น ส่งผลต่อกระแสลมโดยรอบและสภาพอากาศ ก่อนที่แสงสว่างนั้นจะหายไปพร้อมกับเด็กผู้ชายคนอื่น ๆ ทิ้งไว้เพียงแค่สามพี่น้องที่กำลังโมโหอย่างสุดขีด
 
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
 
“แม่งเป็นฆาตกรหรือเปล่าวะ คิดจะฆ่ากันชัด ๆ” หน้าตี๋ตาโตพูดขึ้น ตอนนี้ทุกคนเข้ามาหลบอยู่ในบ้านของแวน รวมถึงพีทด้วย
“ขอบคุณมากนะพี่ที่ช่วยพวกผมไว้” หน้าหล่อใส่แว่นหันไปพูดกับรุ่นพี่
“สบายมาก เทพอย่างกู” พีทพูดยกยอตัวเอง
“ยัยเก๋พูดเรื่องกฎของวิลเลจ แม่งคงคิดจะฆ่ากันจริง ๆ” หน้าหล่อสูงนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่พูด
“กูว่าพวกมันไว้ใจไม่ได้ว่ะ" ร่างสูงใหญ่ใส่แว่นพูด
“เออดิ ต่อไปพวกเราต้องระวังตัวนะเว้ย อย่าอยู่คนเดียว เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยกัน” หนุ่มหล่อพูดกับเพื่อนทุกคน แสดงภาวะความเป็นผู้นำของกลุ่ม
“คิดมากไปเองหรือเปล่า ไปหาเรื่องเขา เขาก็ต้องโมโหสิ” วัยรุ่นสาวสวยหน้าหมวยเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ ผู้เป็นน้องชายบนโซฟาตัวใหญ่
“วิวเชื่อดิ สายตาพวกนั้นมันฆาตกรชัด ๆ เลยนะ” ร่างอวบพูดกับสาวสวย
“พีทก็เวอร์ วิวเคยคุยกับเก๋สองสามครั้ง เขาก็ดูพูดจาดี อัธยาศัยปกติดีนะ” สาวสวยไม่เชื่อสิ่งที่ผู้ส่งสารพูดให้ฟัง
“อะไรเนี่ยพี่วิว ผมเป็นน้องพี่นะ พี่ต้องเข้าข้างผมดิ” หนุ่มหน้าลูกครึ่งหันไปโวยวายใส่พี่สาวตัวเอง
“แกแหละตัวดี ชอบแกล้งคนอื่นเขาไปทั่ว” วิวตอบกลับพร้อมกับหยิกไปที่ต้นแขนข้างซ้ายของน้องชาย
“โอ๊ย! เจ็บนะพี่” แวนมีปฏิกิริยาโดยทันที
“แต่พวกผมพูดจริงนะพี่วิว พี่ก็รู้ว่าผมอ่านใจได้ ตอนนี้ทะเลาะกันเก๋คิดฆ่าพวกเราจริง ๆ นะ” ร่างใส่แว่นหน้าตาน่ารักพูดกับสาวสวย
“เบนอ่านใจได้ แล้วก่อนหน้านี้ล่ะ ได้อ่านใจไหมว่าเขาคิดฆ่าใครหรือเปล่า?” วิวพูดสวนกลับ อีกฝ่ายเงียบไป
“เห็นไหม เบนก็ไม่ได้ไปนั่งอ่านใจเขาตลอดเวลาสักหน่อยจะรู้ได้ไงว่าเขาไม่ดี เป็นคนชั่วร้าย ถ้าบอกว่าเขาไม่ดี วันนี้พวกเราทุกคนก็นิสัยไม่ดีกับเขาเหมือนกันนะ” วิวพูดต่อเชิงสั่งสอน
“ผู้ชายนี่อะไรกันนักหนา เอะอะก็ชอบก่อสงคราม มันสนุกตรงไหนกัน” สาวสวย MVP ทำเอาการสนทนาเงียบสงบลงทันที

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

ให้คะแนนกันหน่อย เมตตาฉันด้วย

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา