ไม่มีวิญญาณในเรื่องสั้น

2.8

เขียนโดย ฮางมะ

วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19.49 น.

  4 ตอน
  11 วิจารณ์
  7,061 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2558 17.47 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) มีความพยายามในเรื่องสั้น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
     ฉันกลับมาบ่นอีกแล้ว หรือว่าฉันบ้าเขียน บ้าเขียน? เปล่าหรอกฉันยังไม่ถึงขั่นนั้น ฉันยังไม่ได้บ้าเขียนแต่ฉันบ้าคิด คิดมากกว่าเขียนแต่ฉันก็เขียน ช่วงหลังเขียนเรื่องเครียดๆฉันก็ผ่อนคลายด้วยการเขียนเรื่องเบาๆแบบนี้แหละ บำบัดความเครียดจากการเขียนด้วยการเขียนอย่างเบาๆ และบ้าๆ
                 
     งงไหม ช่างเถอะ ฉันยังงงเองเลย วันหนึ่งฉันต้องได้เขียน หากไม่ได้เขียนอาการของฉันอาจคล้ายคนเป็นโรคพาร์กินสัน สั่นเป็นเจ้าเข้าลมั้ง ฮา แต่ว่าก็ว่าเถอะ เรื่องนี้เองก็ตามฉันบำบัดความคิดที่รกสมองเอามาลงในเรื่องนี้ ฉะนั้นคุณอย่าอ่านเลยนะ ใครก็ตามที่ผ่านทางมาทางนี้ถ้าเห็นเรื่องนี้ก็อย่าอ่านเลยนะมันเป็นเรื่องจริงพอๆกับมันก็ไม่ใช่เรื่องจริง
                       
     เรื่องทั้งหมดที่มันทำให้มีตอนนี้ คือฉันได้ฟังการอบรมงานเขียนในยูทูบ เขามีจัดอบรมการเขียนกัน เขาเชิญวิทยกรระดับปรมาจารย์ด้านงานเขียนท่านหนึ่งมา บรรณาธิการที่อยู่คู่บรรณพิภพมายาวนาน ผู้ผ่านเกิดนักเขียนนามอุโฆษมามากมาย
                       
     หัวข้ออะไรนั้นฉันจำไม่ได้หรอก ฉันก็นั่งฟังไปอย่างตั้งใจ เขาพูดถึงการเขียน เขาบอกการเขียนได้รางวัลนั้นหาใช่การันตีความเป็นนักเขียนไม่ หรือความเป็นตัวตนคนเขียนจริงๆได้
                       
     สิ่งที่จะการันตีได้คือการเขียนอย่างต่อเนื่อง เขียนต่อไปเรื่อยๆ
                       
     เขียน
                       
     เขียน
                       
     และก็เขียน (บรรทัดนี้กรุณาอ่านออกเสียงสำเนียงเหน่อด้วย ไม่ต้องรู้เหตุผลของคนบ้าหรอกนะ)
                       
     มันต้องใช้ความพยายามระดับใช้พลังชีวิตที่มีเพื่อการเขียน ท่านยังบอกอีกว่าการมีงานเขียนตีพิมพ์เล่มสองเล่มก็ยังไร้ตัวตนในโลกของการเขียน สิบปี! ท่านย้ำคำนี้เสมอ หากใครก็ตามที่เขียนเก่งจนก้าวไปถึงขั่นสูงสุดแห่งการเขียนคือการเถลิงบันลังภ์รางวัลงานเขียน มามากมายแต่สุดท้ายก็วางมือไปท่านบอกว่า เขาก็ยังไม่มีตัวตน!
                       
     ใจฉันมันร่ำร้องดังมากเหมือนคนจะเป็นบ้า รู้สึกโดนใจอย่างที่สุด
                       
     ยังไม่มีตัวตน!!
                 
     ให้พยายามเขียนต่อไป เขียนดีไม่ดีก็ต้องเขียนต่อไป อย่าหยุด ครบสิบปีนั่นแหละคุณจะมีสำนวนของตัวเอง คุณจะมีใบหน้าขึ้นมาตอนใครคนหนึ่งอ่านหนังสือเขาจะรู้เลยว่าเป็นคุณนี่แหละที่เขียน คุณจะบรรลุถึงโสดาบันแห่งการเขียนเป็นปฐมขั่นแห่งมรรคผลของการเขียน อันนี้เติมเอง
                       
     อื่ม…ฉันเห็นจริงตามนะ การเป็นนักเขียนคืออะไร คำตอบที่ได้ไม่ใช่แค่มีงานเขียนเลี้ยงชีพด้วยการเขียนได้ แต่มันคือการมีตัวตน มีกลิ่นอายของคนเขียนผนึกอยู่ทุกหน้ากระดาษ เบื้องหลังงานเขียนเหล่านั้นประกอบด้วยความอุตสาหะ ทำงานนักอยู่ตลอดเวลา นี่สินักเขียน มันต้องแบบนี้!!
                       
     มันใช่เลย!!
                       
     หัวใจฉันพองโต ชีวิตจิตใจมีเป้าหมายและพลังเพิ่มพูนอย่างไม่น่าเชื่อความอิ่มเอิบอาบไปทั่วร่าง ฉันเห็นทางสว่างจากการถูกแนะนำโดยผู้ที่เป็นปรมาจารย์ศิษย์ขอคาราวะ (เหน่อด้วยนะ)
                       
     แต่ช้าก่อน! ขณะที่ความปิติยินดีไหลเวียน หูฉันก็ได้ยินคำถามๆหนึ่งที่พิธีกรเอ่ยถาม ตกลงงานเขียนเชิงสังคมนี่มันจะได้อะไรหากเขาเขียนมาในระยะเวลาประมาณหนึ่ง ความสำเร็จยังไม่รู้อยู่ที่ไหน ปกติงานวรรณกรรมนี่ขนาดคนเขียนดังๆยังจะอดตาย เราจะได้อะไรจากการฝึกฝนการเขียน
                       
     ในความพากเพียรพยายามเราจะได้อะไร ท่านตอบไม่ได้ ท่านบอกเรื่องนี้พูดยากมาก แต่รู้แน่ๆว่าหากหยุดเมื่อไหร่ก็มีแต่เสีย พยายามต่อไป เรายังได้ความหวัง ที่มันยังอยู่ในมือเราเราพัฒนาเสมอนั่นก็เป็นการที่ได้มากมายนัก คิดดูสิเรามีความสุขขนาดไหนที่เขียนจบสักเรื่องมันช่างอิ่มเอมใจเหลือเกิน เราอย่าพูดถึงเรื่องได้-ไม่ได้กันเลย คิดแบบนั้นมีแต่จะเสีย ในเมื่อเราเลือกที่จะเขียนเอง ไม่มีใครเอาปืนจี้หัวบังคับให้คุณเขียนนี่ คุณเขียนเอง!
                       
     อื่ม…ได้ความหวัง อื่มดีจริงๆแค่ได้เขียน ออกมาเราก็มีความสุขมากมานักแล้ว
                       
     สรุปคือฉันสำรอกความคิดลงหน้ากระดาษสูดกลืนความอิ่มเอมอย่างเอร็ดอร่อย มีความสุขจากการหลอกตัวเองที่ที่แม้เรื่องราวมันจะไม่ได้ไปไหน
                       
     แบบนี้แหละฉันชอบหลอกตัวเอง
                 
     โชคดีจังที่ยุคปัจจุบันมีที่ทางให้เรื่องบ้าๆอย่างนี้ได้ลงมันจึงไม่ได้เน่าตายในคอมพิวเตอร์ และก็โชคดีจริงๆผลการประกวดหลายรายการที่ผ่านมาแม้ไม่ได้ลุ้นเข้ารอบกับใครเขาแต่เราก็ยังเปี่ยมสุข สุขที่ได้พยายามเขียน
                       
                       
     ก็แบบนี้แหละชีวิต จะเอาอะไรมากมายถึงวันนี้ ตอนนี้ ที่เรายังขียนอยู่ เป็นสิ่งที่สุดยอดมากๆแล้วใช่ไหม เรื่องที่เราเขียนจบไปแล้ว ส่วนมันจะได้รางวัลหรือมันจะบินไปได้ไกลไหมนั้น ก็ไม่เกี่ยวกับเราแล้ว นอกเหนือจากสิ่งที่เราจะควบคุมได้แล้ว
 
                       
          ขอบคุณ และคิดว่าจะเขียนมาระบายแบบนี้ได้เรื่อยๆ ฮา อย่าเพิ่งเบื่อนะจ๊ะ
 
 
 
 
 KEEP CALM AND CARRY ON WRITING
ตั้งสติ แล้วเขียนต่อไป
 
 
                       
 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา