นิลสีเทา

-

เขียนโดย thalin

วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 10.53 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,251 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 เมษายน พ.ศ. 2559 17.39 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

5) มันไม่ใช่จุดจบ...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
                    จากข้อมูลที่หมอบอกผมมา  ทำให้ผมได้รู้ว่า  เส้นประสาทในดวงตาของผมกำลังมีปัญหา  (ปัญหาใหญ่ทีเดียว...) ซึ่งอาจมีเกิดจากการกระทบกระเทือนทางสมองส่วนหนึ่ง  ผมคิดว่าผมรู้นะ...
                    หลายต่อหลายครั้งที่ผมต้องคอยเป็นกรรมการตัดสินสงครามประสาทของพ่อแม่  สิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆคือลูกหลง  และผมก็มักจะโดนอยู่บ่อยครั้ง  ทั้งขวดสุึรา  และอุปกรณ์ทำครัว  ผมไม่เคยกังวลเรื่องบาดแผลที่ได้รับ  เพราะผมไม่ต้องการคิดถึงมัน  การจดจำว่ารอยแผลที่เจ็บปวดเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไรนั้นเป็นเรื่องน่าเศร้า
                    แต่ตอนนี้...ผมกำลังคิดถึงมัน
                    หมอกักตัวผมให้อยู่ที่โรงพยาบาล...จนกว่า  จนกว่าผมจะดีขึ้น
                    ไม่มีใครมาเยี่ยมผมตอนที่ผมป่วย  ตอนนี้  ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณยายแล้ว  การนอนรวมอยู่กับผู้ป่วยที่อาการสาหัส  ร้องโอดโอยตลอดเวลาเช่นนี้ทำให้ผมรู้สึกเกลียดตัวเองมากขึ้นไปอีก
                    ผมควรจะทำอะไรได้มากกว่านี้สิ...
                    สองสัปดาห์ที่ผมนอนเปื่อยอยู่กับเตียง  ผมได้แต่คิดหนัก  ว่าผมทำอะไรผิด  ชีวิตของผมมันจะแย่ไปถึงไหน  ผมมีครอบครัวที่ห่วยแตก  ผมต้องสูญเสียยายผู้เป็นที่พึ่งทางจิตใจเพียงหนึ่งเดียวไปอย่างกระทันหัน  แล้วตอนนี้  ผมก็กำลังจะเสียตาข้างหนึ่งไปเพราะลูกหลงโง่ๆของพ่อแม่
                    มันจะอะไรกันนักกันหนา
                    ผมลุกขึ้นนั่งและมองออกไปนอกหน้าต่าง  ทัศนวิสัยการมองเห็นของผมลดต่ำ่ลงเมื่อเหลือดวงตาที่ใช้ในการมองเห็นได้เพียงข้างเดียว
                    พวกคุณไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกของผมในตอนนี้หรอก
                    ...ผมมันไม่มีค่าเลย  ผมเกิดมาร่างกายอ่อนแอ  ผมไม่สามารถช่วยยายได้  และตอนนี้  ผมก็ช่วยใครไม่ได้อีกแล้ว...แม้แต่ตัวของผมเอง
                    "ดูคุณตาคนนั้นสิ..."  คุณหมอที่กำลังตรวจอาการของผมอยู่ชี้นิ้ว
                    คุณตาอายุกว่า 70 ปีกำลังนอนหงายอยู่บนเตียงผู้ป่วย  ขาของเขาเล็กและซูบผอมจนเห็นแต่กระดูก  แถมยังมีแผลเหวอะหวะที่บริเวณท้องแขน
                    คุณสามารถเห็นภาพเหล่านี้ได้ทั่วไปในโรงพยาบาล  ผมไม่ชอบเลย
                    "แล้วดูทางนั้น"  คุณหมอชี้นิ้วไปอีกทาง
                    วัยรุ่นอายุมากกว่าผมประมาณ 4-5 กำลังคลำมือไปบนหนังสือภาพสามมิติที่ทางโรงพยาบาลเอามาให้  เขาหลับตา่ทั้งสองข้าง  แต่กลับมีรอยยิ้มเบ่งบานเมื่อลูบนิ้วมือไปตามภาพที่เด่งออกมาจากหนังสือ
                    ดวงตาข้างที่มืดบอดของผมปวดตุบๆ
                    ผมเงยหน้าขึ้นและพบว่าคุนหมอกำลังมองมาที่ผมพร้อมรอยยิ้ม
                    "ถึงจะสูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิตไป  พวกเขาก็ไม่ได้ตาย  คุณตาคนนั้นกำลังหายใจอยู่  ส่วนเด็กหนุ่มคนนั้นก็ยังมีความสุขกับการใช้ชีวิตในความมืด...เธอน่ะ  ยังไม่ได้สูญเสียมากเท่าพวกเขาเลยนะ"
                    ใช่...หมอพูดถูก
                    ไม่ใช่โชคชะตาหรอกที่ผิด...คนที่ผิดน่ะ
                    "ผมเข้าใจดีแล้วครับหมอ"  ผมบอก
                    หมอยิ้มให้ผมอีกครั้งและตบบ่าผมเบาๆ  "พรุ่งนี้หมอจะมาใหม่นะ..."
                    หมอไปตรวจผู้ป่วยคนอื่นๆแล้ว  แต่ผมยังคงจ้องมองออกไปนอกหน้า่ต่างอยู่
                    มันไม่ใช่ความผิดของใครที่ผมต้องมาเป็นแบบนี้  แน่นอน  ผมคิดว่าชีวิตนี้มันห่วยแตก  แต่แล้วไง...ไอโชคชะตาที่ชอบเล่นสนุกกับชีวิตของคนอื่นแบบนั้นทำให้ผมตายไม่ได้หรอก  ผมยังมีความฝันอยู่  ที่สำคัญที่สุด...ผมยังมีชีวิตอยู่
                    นี่ไม่ใช่จุดจบของผม...แต่มันเป็น
                    จุดเริ่มต้น
(END)

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา