โอม ตอนที่ 1 แรงอาฆาต(เวอร์ชั่น 70 เปอร์เซ็นต์)

9.3

เขียนโดย Jalando

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.48 น.

  111 บท
  20 วิจารณ์
  112.33K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2566 00.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) เสียงลือเสียงเล่าอ้าง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
เครดิตภาพจาก  https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2
 
……………………..
       
        สาวสวยกับผู้จัดการหนุ่มหายเข้าไปในห้องทำงานเกือบชั่วโมง มาราณีพยายามเงี่ยหูฟัง เพื่อสำรวจความเป็นไป เธอนึกสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ทั้งสองเข้าไปทำอะไรกัน แต่จนแล้วจนรอด ก็ได้ยินแต่เสียงของความเงียบ ทันใดนั้นเอง ริงโทนเพลง "หมอลำ" ก็ดังมาจากโทรศัพท์มือถือข้างตัว
 
" บอกว่าอย่าขอหมอลำ บอกว่าอย่าขอหมอลำ ไม่รู้หมอลำ เค้าลำแบบไหน "
 
" ฮัลโหล ใครคะ " มาราณีรับสาย สายตาเหลือบมองเบอร์ที่โทรมาแวบนึง มันเป็นเบอร์แปลกที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
 
" ซ่า......." ปลายสายมีเสียงคล้ายวิทยุที่จูนหาคลื่นไม่ได้
 
" ฮัลโหล ใครโทรมาคะ " มาราณีตอบกลับด้วยเสียงที่ดังขึ้น ในใจนึกฉงน ทันใดนั้นเองปลายสายก็มีเสียงผู้หญิงดังแทรกเข้ามา เสียงนั้นดูเย็นๆ ลากยาวและตะกุกตะกักจนฟังไม่ออก
 
" จะ….จิต…..ตะ….หรา…. "      
 
" อะไรนะคะ " มาราณีถามกลับด้วยเสียงที่ดังจนเกือบตวาด เพราะเธอเริ่มหัวเสียกับการสื่อสารที่เฮงซวย แต่ก่อนจะรู้เรื่องราว ปลายสายก็ตัดไปซะอย่างงั้น
 
" ตู้ด..... "
 
" เอ……อะไรของมันวะ พูดไม่รู้เรื่องเลย " เลขานุการสาวนิ่วหน้า เธอวางโทรศัพท์และหันกลับไปทำงานต่อ
 
" เฮ้อ..... ช่างมันเถอะ "
        
 
         ขณะที่เธอกำลังคัดกรองเอกสารทางกฎหมาย เสียงริงโทนเพลงหมอลำก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
 
" บอกว่าอย่าขอหมอลำ บอกว่าอย่าขอหมอลำ ไม่รู้หมอลำ เค้าลำแบบไหน "
         
 
          เลขานุการสาวรีบกดรับสาย พร้อมตะโกนใส่ด้วยอารมณ์โกรธ
 
" คุณ นี่มันเวลาทำงานนะ ถ้ารบกวนกัน ชั้นจะแจ้ง..... "
        
 
         มาราณีขู่อย่างดุดัน แต่ไม่ทันได้พูดต่อจนจบประโยค ก็มีเสียงเล็กแหลมของสาวนางหนึ่งดังแทรกเข้ามา
 
" เฮ้ย แกจะบ้ารึ ชั้นคือ "หมวย" เพื่อนของแกนะ "
 
" เอ...อะไรกัน หมวยหรอกหรือ " มาราณีดูเบอร์ที่หน้าจอ เธอจึงพบว่ามันเป็นเบอร์ของ "หมวย" เพื่อนสาวคนสนิทที่ทำงานอยู่แผนกต้อนรับของบริษัทนี้
 
" ว่าแต่แกเป็นอะไรมากป่ะ " สาวหมวยไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง
 
" เออ....ไม่มีอะไร ก่อนแกโทรมา มันมีเบอร์แปลกๆโทรมาหาชั้นน่ะ " มาราณีตอบกลับ
 
" แล้วเจ้าของเบอร์แปลกๆนั่นพูดว่าอะไรหรือ ใช่หนุ่มที่ตามจีบแกรึป่าว ฮิๆ " ปลายสายล้อเลียน พร้อมหัวเราะเสียงใส
 
" ไม่ใช่ๆ แกอย่ามั่วน่า เค้าไม่ชอบชั้นหรอก เราสองคนเป็นแค่พะ….เพื่อนกัน " มาราณีตอบตะกุกตะกัก ใบหน้าแบบตุ๊กตาหน้ารถเริ่มแดงก่ำ
 
" อั่นแน่! ฮ่าๆ เพื่อนชั้นได้คู่กันคราวนี้ล่ะว้า….. " ปลายสายยังล้อไม่เลิก
 
" บ้าๆ ไม่ใช่นะโว้ย เขาชอบโทรหาชั้นตอนสามทุ่มต่างหาก อุ้บ " มาราณีโวยดังด้วยความอาย สุดท้ายเธอก็พลั้งปากบอกความจริง
 
" ฮ่าๆ หลุดจนได้ มิน่า ตอนชั้นโทรไปหาแกเวลาสามทุ่ม สายถึงไม่ว่างซักที แต่ๆ แต้ๆ " พอสาวหมวยรู้ความจริง เธอก็ล้อเพื่อนซี้หนักขึ้น โดยทำเสียงเป็นทำนองเพลงงานแต่ง ทำเอามาราณีอายจนพูดไม่ออก
 
" นะ…..นี่…… แก ถะ….ถ้าไม่มีไร ชั้นวางแล้วนะ " เมื่อเห็นท่าว่าจะโดนล้อแบบยาวๆ มาราณีจึงกล่าวตัดบท แต่เพื่อนรักที่ปลายสายไม่ยินยอม
 
" ฮ่าๆ โอเค ไม่แกล้งแล้ว ฮ่าๆ ท้องแข็งเลย ฮ่าๆ "
         
 
          สาวหมวยพูดไปก็หัวเราะไป ท่าทางเธอคงเส้นตื้นไม่ใช่น้อย หลังจากที่ขำจนหนำใจ สาวหมวยก็เริ่มเข้าเรื่องที่ต้องการพูด
 
" พวกชั้นเห็นยัยผู้ช่วยคนสวยขึ้นไปหาตาผู้จัดการขี้หลีได้ชั่วโมงเศษแล้ว เกิดอะไรเด็ดๆขึ้นรึเปล่า "
         
 
          มาราณีรู้ในทันทีว่าผู้ช่วยที่กล่าวถึงก็คือ.......จิตหรา เธอจึงเริ่มพูดในสิ่งที่คิด  
 
" เออ ใช่ ยัยผู้ช่วยคนนั้นมาที่นี่เกือบชั่วโมงแล้ว แต่พอมาถึง เธอก็หายเข้าไปในห้องพร้อมผู้จัดการ ชั้นเองก็สงสัยเหมือนกันว่าสองคนนั้นกำลังทำอะไร "        
        
 
          พอมาราณีพูดจบ ปลายสายก็พลันเงียบไปชั่วขณะ คล้ายว่าสาวหมวยกำลังตรึกตรองบางสิ่งอย่างหนักหน่วง มันเงียบจนทำให้เลขานุการสาวนึกสงสัย แต่ก่อนจะได้ไถ่ถาม เพื่อนสาวคนสนิทก็กล่าวถึงบางสิ่งด้วยกระแสที่เบาจนใกล้เคียงกับเสียงกระซิบ บ่งบอกว่าเรื่องราวที่จะเล่าต่อไป น่าเป็นความลับระดับห้าดาว
 
" เออนี่ เพราะเห็นว่าแกเป็นเด็กใหม่ ชั้นเลยจะบอกความลับบางอย่างให้ฟัง "
 
" เออ…..ว่ามา " มาราณีลดเสียงลงบ้าง เธอเตรียมรับฟังด้วยความยินดี
 
" เก็บเงียบไว้นะ แก ไม่งั้นเราหัวขาดทั้งคู่แน่ " สาวหมวยเน้นย้ำ
 
" เออ...ว่ามา เร็วๆ " มาราณีตอบกลับเสียงเข้ม เพราะเธอเริ่มลุ้นเข้าให้แล้ว
          
 
          สาวหมวยนิ่งอยู่อึดใจ ก่อนจะตัดสินใจบอกความลับแก่เพื่อนรัก
 
" ที่บริษัทนี้ เขาลือกันว่า.......ยัยผู้ช่วยสาวกับตาผู้จัดการขี้หลีเป็นกิ๊กกัน "
         
 
          ข้อมูลดังกล่าวทำให้มาราณีตกใจอย่างรุนแรงจนถึงขั้นตะโกนออกมา
 
" หา! แต่ผู้จัดการ แกมีลูกมีเมียแล้วนะ "
 
" ก็จริง แต่แกก็รู้ว่า ตาผู้จัดการนั่นมันขี้หลีระดับโลก เจ้าชู้ระดับชาติ ไม่แปลกหรอก ถ้ามันจะเล่นชู้กับยัยผู้ช่วยคนสวยนั่น " สาวหมวยแจงที่มาของข่าวลือ
 
" อืม…..มันก็เป็นไปได้ " มาราณีรับคำ สมองเริ่มคล้อยตาม เพราะสิ่งที่ได้รับรู้ ค่อนข้างมีน้ำหนักให้น่าเชื่อถือ หลายวันที่เข้ามาทำงาน เธอพบว่าผู้จัดการนพพลเป็นคนเจ้าชู้ขนาดหนักจริงๆ
 
" อีกอย่าง แกรู้มั้ย เมื่อหลายปีก่อน ยัยผู้ช่วยคนนั้นก็ทำงานในตำแหน่งเดียวกับแก " สาวหมวยเล่าต่ออีกเรื่อง
 
" หา! จิตหราเคยทำงานตำแหน่งเลขานุการ " มาราณีตกใจจนร้องเสียงหลง
 
" ใช่ เบาๆหน่อยดิ นี่คือความลับนะโว้ย " สาวหมวยร้องเตือนเสียงขรึม เธอนึกระอานิสัยขี้ตื่นของเพื่อนซี้
 
" ได้ๆ แล้วทำไมยัยนั่นถึงก้าวมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการได้ล่ะ เพราะตำแหน่งเลขานุการที่ชั้นทำ มันแทบไม่มีดีกรีอะไรให้ไต่เต้าเลย " มาราณีถามรัวๆ
 
" เขาว่ากันว่า..." ถึงตรงนี้สาวหมวยลดเสียงลงอีกครั้ง
 
" อะไร " มาราณีลุ้นตาม
 
" เธอใช้เต้าไต่ " สาวหมวยตัดสินใจกล่าวถึงความจริงที่ดำมืด
 
" หา!เต้าไต่ จริงดิ " มาราณีหลุดปากตะโกนออกมาอีกครั้ง ทำเอาเพื่อนสาวตกใจจนต้องรีบปราม
 
" เบาๆสิวะ เดี๋ยวได้ตายกันหมดหรอก ไอ้บ้านี่ "
 
" จ้ะๆ แล้วไงต่อ เล่าแบบละเอียดๆเลยนะ " มาราณีลดเสียง พลางถามต่อ
 
" ยัยจิตหราใช้ความสาว ความสวยเสนอต่อผู้จัดการ ตอนนั้นไอ้ผู้จัดการขี้หลีทั้งรักทั้งหลง มันเลยทั้งผลักทั้งดันจนยัยนั่นก้าวไกลไปถึงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ " สาวหมวยใส่เป็นชุด เพราะเรื่องดังกล่าวจัดเป็นความลับที่พนักงานเกือบทุกคนรู้และพยายามจะไม่ปริปากออกมา เนื่องจากกลัวถูกไล่ออก
 
" อืม..... " มาราณีพยักหน้ารับคำ เธอเริ่มปรับอารมณ์ได้ แต่ยังมีอาการตื่นเต้นเหลืออยู่เล็กน้อย ทว่าสาวหมวยยังไม่ยอมจบการสนทนาที่เผ็ดร้อน อึดใจต่อมา ก็เริ่มเข้าเรื่องที่ตั้งใจจะพูดจริงๆ
 
" และอีกเรื่อง เรื่องนี้คือความลับสุดยอด นอกจากนี้มันยังเกี่ยวพันกับแกด้วย "
 
" หา เกี่ยวข้องกับชั้น " มาราณีร้องเสียงหลง จากนั้นเธอเหลือบซ้ายแลขวาด้วยอาการระแวง
 
" ใช่ แกรู้มั้ย เลขานุการคนก่อนเป็นหญิงสาวที่สวยมาก แถมยังอายุน้อยกว่าแกตั้งปีนึง " ปลายสายเริ่มอารัมภบท
 
" อืม..... " มาราณีรับคำ สมองคิดตาม
 
" ตอนนั้นผู้จัดการนพพลหลงใหลในตัวเด็กใหม่คนนี้มาก ถึงขนาดที่... " สาวหมวยพูดเรียบๆ แต่แผ่วเบาด้วยสัญชาตญาณระวังภัย
 
" ที่...อะไร เล่าต่อเร็ว " มาราณีติดตามผลงาน
 
" เขาคิดจะเอาเด็กสาวคนนี้มาเป็นผู้ช่วยแทนยัยจิตหรา " ปลายสายกล่าวเฉลย
 
" หา! " มาราณีอุทานอีกครั้ง
 
" แต่ก็เกิดปัญหาบางอย่าง... " สาวหมวยเล่าค้างให้คิด
 
" อืม…..ปัญหาอะไร " มาราณีรีบพยักหน้ารับ พร้อมกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ด้วยอาการลุ้น
 
" ปัญหาก็คือ….. ยัยจิตหรานั้นร้ายกว่าที่ใครๆคิด เมื่อเดือนที่แล้วยัยนั่นเข้ามาต่อว่าเด็กใหม่อย่างรุนแรง แกรู้มั้ย การทะเลาะครั้งนั้น มันบานปลายไปถึงขั้นตบตีเลย " สาวหมวยต่อคำ น้ำเสียงที่เล่าดูเร้าใจ
 
" หา จริงเหรอ! " เลขานุการสาวทวนคำเสียงดัง
 
" ใช่ เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทางบริษัทจึงรู้สึกเสียหน้า ผู้จัดการก็ถึงกลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะอีกฝ่ายเป็นคู่ขากันมาหลายปี ส่วนอีกฝ่ายก็เป็นเด็กใหม่ที่จ้องจะลิ้มลอง " สาวหมวยแจงต่อ
 
" แล้วมันจบยังไง " มาราณีไถ่ถามรัวเร็ว
 
" จบลงที่ให้เด็กใหม่ลาพักงานไปก่อน ส่วนยัยจิตหรา ก็คาดโทษเอาไว้ " สาวหมวยตอบ
 
" ไม่ยุติธรรมเลย อีกฝ่ายถูกลงโทษ แต่อีกฝ่ายไม่โดนอะไรเลย " มาราณีโวย
 
" ก็ยัยผู้ช่วยนั่น เส้นใหญ่นี่นา ได้ข่าวว่ามีอยู่ช่วงหนึ่ง คุณเธอไปกิ๊กกับประธานบริษัทเลยนะ " สาวหมวยแจง
 
" โห! เต้าไต่ขนานใหญ่เลยนะเนี่ย " มาราณีกล่าวเสริม
 
" ใช่ๆ และที่ร้ายสุดคืออะไร รู้มั้ย " สาวหมวยหรี่กระแสลงจนกลายเป็นเสียงกระซิบ
 
" อะไร " มาราณีถามต่อ ใจเต้นระทึก
 
" หลังจากวันนั้น เด็กใหม่ก็ไม่ได้กลับมาทำงานอีกเลย " สาวหมวยพูดห้วนๆ แล้วก็นิ่งเงียบไปซะอย่างงั้น
 
" ทะ…..ทำไม " มาราณีถามเสียงสั่น ถึงตอนนี้เลขานุการสาวเริ่มกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะรู้ว่าตนต้องทำงานในตำแหน่งเดียวกับบุคคลที่น่าจะสูญหาย แต่คำตอบที่ได้รับในเวลาต่อมา ทำให้สำนึกว่าเธอไม่ควรจะถามเพื่อนสาวเลย คำตอบนั้นก็คือ........
 
" เธอตกตึกตาย "
 
" หา! " มาราณีตะโกนดังอีกครั้ง คราวนี้เธอร้องจนสุดเสียง เพราะเรื่องราวที่รับฟัง มันเลวร้ายจนยากจะรับได้จริงๆ
 
" ในตอนแรกตำรวจก็สงสัยว่าฆาตกรน่าจะเป็นยัยผู้ช่วย เพราะก่อนที่จะเกิดการตาย สองคนนี้มีเรื่องทะเลาะกันอย่างรุนแรง ต่อมาข้อสงสัยนั้นก็ตกไป เนื่องจากยัยผู้ช่วยมีพยานหลายคนระบุว่า…..ขณะเกิดเหตุ เจ้าหล่อนไปอยู่ที่อื่น ตำรวจจึงวินิจฉัยว่าคดีนี้น่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย ถึงอย่างนั้น มันก็น่าสงสัยอยู่ดี ลองคิดซิ ยัยเลขานุการคนนั้นทั้งสาวทั้งสวยและอนาคตไกล คุณเธอจะฆ่าตัวตายโดยที่ไม่มีมูลเหตุจูงใจได้ยังไง" สาวหมวยแจงด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นที่ชวนหลอน
 
" น่ากลัวอ่ะ แล้วชั้น...จะเป็นอะไรมั้ยเนี่ย " มาราณีถามเสียงสั่น
 
" แกจะไม่เป็นไร ถ้าก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป โดยไม่มักใหญ่ใฝ่สูงให้เกินตัว นี่เพราะเราเป็นเพื่อนสนิทกัน ชั้นถึงได้มาเตือนแก " สาวหมวยปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงที่เจือความห่วงใย
 
" จ้ะๆ ชั้นไม่ไปขัดคอยัยจิตหราแน่ โคตรน่ากลัวเลยว่ะ " มาราณีตอบกลับตื่นๆ
      
 
         ทันใดนั้นเองก็มีเสียงใสของหญิงสาวนางหนึ่งกระแอมดังที่ด้านหลังของเลขานุการสาว
 
" ฮะ.....แฮ่ม "
 
" อุ้ย " มาราณีสะดุ้งตกใจ เธอรีบกดตัดสายในทันที จากนั้นก็ค่อยๆหันกลับมาอย่างช้าๆ เจ้าของเสียงกระแอมที่ด้านหลังจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากผู้ช่วยคนสวยที่มีนามว่า " จิตหรา "
 
" มะ…..มาไม่ให้สุ้มให้เสียงละ…..เลยนะคะ คุณจิตหรา " มาราณีพยายามทักทายด้วยน้ำเสียงที่ปกติ แต่ฟังยังไงมันก็ไม่ปกติ
 
" จ้ะ พี่มาได้ซักพักแล้วล่ะ งานที่ทำเหนื่อยมากมั้ยจ๊ะ " จิตหราตอบยิ้มๆ หน้าสวยดูสดใส
 
" ไม่ค่ะ ว่าแต่คะ……คุณออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ " มาราณีเห็นท่าทางที่ดูปกติของจิตหรา เธอก็เริ่มใจชื้นขึ้น
 
" เมื่อครู่นี้เองจ้ะ ทันฟังหนูคุยกับเพื่อนพอดีเลย " จิตหรายังคงยิ้มให้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
 
" ฮะๆ ค่ะ " มาราณีหัวเราะแห้งๆ เธอทำตัวไม่ถูก มือไม้สั่นไปหมด
 
" เฮ้อ..... อันที่จริง พี่ไม่ว่าอะไรหรอก คนเราเข้าใจผิดกันได้เสมอ " จิตหราพูดเรื่อยๆ แต่ถ้าฟังให้ดี ก็จะพบความเจ็บปวดแฝงอยู่ในน้ำเสียงเล็กน้อย
 
" เอ่อ…. ค่ะ " มาราณีตอบได้แค่นี้ เพราะเธอไม่รู้จะพูดอะไรในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้
 
" หนูรู้มั้ยว่า…..เมื่อสิบปีที่แล้ว พี่เองก็ทำหน้าที่ในตำแหน่งเดียวกับหนู อายุของพี่ในตอนนั้นก็น่าจะใกล้ๆกับหนูนี่แหละ " จิตหรากล่าวขึ้นมาลอยๆ ดวงตางามเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง
 
" พี่พยายามทำงานอย่างสุดความสามารถ ทั้งเรียนภาคค่ำเสริมความรู้ หวังเอาความรู้ที่ได้มาช่วยเหลือองค์กร แต่...ยังไม่วายถูกคนเข้าใจผิดไปต่างๆนาๆ " เสียงจิตหราเริ่มขาดห้วงและแฝงแววสะเทือนใจ        
        
 
        มาราณีเงยหน้ามอง เธอเห็นน้ำใสๆเครืออยู่ที่ขอบตางาม วินาทีนั้นเองเลขานุการสาวก็เริ่มใจอ่อน เพราะสงสารคู่สนทนาอย่างจับจิต
 
" อย่าเสียใจไปเลยค่ะ " มาราณีกล่าวปลอบและยื่นกระดาษทิชชู่ให้
 
" อึกๆ จ้ะๆ ขอบใจจ้ะ " เสียงของจิตหรายังคงสะอื้นน้อยๆ คล้ายจะพยายามสะกดกลั้นความเสียใจที่กำลังทะลักออกมา
 
" ไม่เป็นไรค่ะ " มาราณีตอบกลับ พร้อมยิ้มให้กำลังใจ
 
" อีกอย่างนะจ๊ะ ตอนที่พี่ทะเลาะกับ "กุลสตรี" เออนั่นคือ....ชื่อของเลขานุการคนก่อนน่ะ " จิตหราเอ่ยชื่อหนึ่งออกมา จากนั้นก็หยุดแจงเล็กน้อย เพราะเธอคิดว่ามาราณีน่าจะไม่รู้จักชื่อของเลขานุการคนก่อน
 
" ค่ะ แล้วไงต่อ " มาราณีถามเร็วจี๋ แต่จิตหรายังไม่เล่าในทันที
 
"...เอ่อ...หนูต้องสัญญาก่อนนะ……หนูห้ามเล่าเรื่องที่ได้ยินให้ใครฟังเด็ดขาด คือ...มันไม่ดีต่อผู้ตายน่ะ "
 
" ค่ะๆ หนูสัญญา " มาราณีรีบรับคำ
 
" เรื่องเป็นมาอย่างนี้ กุลสตรีเป็นเด็กใหม่ไฟแรง เธอขยันขันแข็ง ฉลาด หัวไว เรียนรู้งานได้รวดเร็ว นอกจากนี้พี่และกุลสตรียังสนิทกันมาก เธอเปรียบเสมือนน้องสาวแท้ๆ ช่วงนั้นพี่มีความสุขมาก " จิตหราพูดไปก็ยิ้มไป ในใจหวนระลึกถึงความหลังเก่าๆที่แสนสุข
 
" ค่ะๆ " มาราณีพยักหน้ารับคำ
 
" แต่อยู่มาวันนึง พี่เกิดจับได้ว่า....เด็กคนนั้นกระทำผิดต่อบริษัทด้วยการโกงเงิน " จิตหราหน้าเสียอย่างฉับพลัน น้ำเสียงที่เล่าก็แผ่วลง แถมเจือสำเนียงเจ็บปวดอยู่เล็กน้อย อันคล้ายกับอาการของพี่สาวที่ถูกน้องสาวแท้ๆทรยศ
 
" หา! " มาราณีตกตะลึง เรื่องราวทั้งหมดเริ่มโอละพ่อแล้ว
 
" พี่ตามไปตักเตือนกุลสตรีให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้ แต่เธอก็......." จิตหราพูดต่อ สุดท้ายก็ค้างไว้เท่านั้น ดวงตาเหม่อลอย
 
" อะไรคะ กุลสตรีทำอะไร " มาราณีรีบทวงถาม ในตอนนี้เธอเลิกสงสัยจิตหราไปเรียบร้อยแล้ว เพราะท่าทางของผู้ช่วยสาวนั้นดูจริงใจและอ่อนโยน จนแทบไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างนี้จะทำอะไรที่ชั่วร้ายและน่ารังเกียจได้ถึงขนาดนั้น
 
" กุลสตรีทำร้ายพี่ก่อน พี่เลยจำเป็นต้องป้องกันตัว หลายวันต่อมาเธอก็จบชีวิตตัวเองด้วยการโดดตึกตาย บางทีพี่ก็คิดว่า......." จิตหราพูดด้วยเสียงที่สั่นเทา แต่พอถึงช่วงท้าย เธอก็นิ่งไป
 
" คิดว่าอะไรคะ " มาราณีเอ่ยถาม ดีกรีความลุ้นในจิตใจปะทุขึ้นมาถึงจุดสูงสุด
 
" ว่าเหตุที่กุลสตรีฆ่าตัวตาย อาจเป็นเพราะพี่ก็ได้ ฮึกๆ " จิตหราพูดจบ ก็สะอื้นไห้ คราวนี้ดูเหมือนว่าเธอจะสะกดกลั้นความเสียใจเอาไว้ไม่อยู่
 
" หนูขอโทษ เออ....พี่ไม่ต้องเล่าต่อก็ได้ค่ะ " มาราณีหน้าเจื่อน ความรู้สึกผิดเริ่มกัดกินหัวใจ
 
" ไม่เป็นไรจ้ะ ฮึกๆ ถือซะว่าพี่ได้ระบายความอึดอัดบางส่วนให้หนูฟังก็แล้วกัน ฮึกๆ " จิตหราพยายามข่มความเศร้าในใจ เพื่อเล่าเรื่องราวในอดีตต่อ
 
" กุลสตรีคงกลัวว่าพี่จะเปิดโปงเรื่องที่เธอทำผิดต่อบริษัท เลยคิดมากจน......ฮึกๆ " ถึงจุดสุดท้ายจิตหราถึงกลับจุกอกจนเล่าต่อไม่ได้ ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกผิดกับการตายของกุลสตรีจริงๆ
 
" บางทีพี่ก็คิดว่า...พี่น่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แล้วแกล้งทำเป็นไม่รู้…...ถ้าทำเช่นนั้น กุลสตรีอาจไม่พบจุดจบแบบนี้ ฮือ…… " จิตหราพูดจบ เธอก็สะอื้นไห้อย่างน่าสงสาร
 
" พี่คะ อย่าคิดมากเลยค่ะ พี่ไม่ผิดหรอก หนูเชื่อว่าซักวันความจริงจะปรากฏ " มาราณียื่นทิชชู่ให้อีกชุด พลางปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
 
" จ้ะ ขอบใจนะจ๊ะ " จิตหรารับทิชชู่มาซับน้ำตา
       
 
          หลังจากจิตหราเริ่มระงับความเศร้าได้ เธอก็เอื้อมมือเรียวงามมาแตะที่หัวไหล่ของเด็กสาวรุ่นน้อง
 
" หนูมีน้ำใจมากนะ พี่ขอให้มีความสุขกับการทำงานจ้ะ " จิตหราส่งยิ้มอ่อนโยนให้เด็กสาวรุ่นน้อง พร้อมเดินจากไป แต่ก่อนที่ร่างของผู้ช่วยคนสวยจะหายลับไปจากสายตา มาราณีก็ยิ้มตอบ พร้อมตะโกนให้กำลังใจสุดเสียงชนิดไม่อายใคร
 
" อย่าคิดมากนะคะ มันไม่ใช่ความผิดของพี่ "
       
 
         ไม่รู้ว่าจิตหราจะได้ยินมั้ย แต่นาทีนี้มาราณีไม่สนแล้ว เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เพื่อโทรไปหา "หมวย" เพื่อนซี้สมัยมหาลัย พร้อมเล่าทุกสิ่งที่เพิ่งรู้ (เพิ่งรับปากว่าจะเก็บเป็นความลับอยู่แท้ๆ)
         
 
          หลังจากมาราณีเล่าจบ หมวยก็เริ่มเปิดปากวิจารณ์ตามประสาคนช่างเมาท์
 
" มันก็ดูเป็นคนดีนะ แต่คิดไปคิดมา ก็น่าแปลก ยัยจิตหราจะเป็นคนดีอย่างที่เล่าจริงเร้อ…. "
 
" อย่าไปเรียกพี่เขาอย่างนั้นสิ " มาราณีออกตัวปกป้องตามประสาคนซื่อ
 
" จ๋าๆ แม่คนดี แม่คนซื่อ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องไม่จริง แกก็ควรระวังตัวเอาไว้ก่อน อย่าไปเชื่อใครให้มากนัก เข้าใจมั้ย " สาวหมวยกล่าวเตือน ในใจนึกระอาความใสซื่อของเพื่อนสาว
 
" จ้ะๆ ไอ้เพื่อนรัก เย็นนี้กินข้าวกันนะ " มาราณีรับคำเสียงใส แต่ปลายสายกลับกล่าวล้อเลียน
 
" อ้าว......ไม่อยู่กินข้าวกับหวานใจหรือจ๊ะ "
 
" แก ไอ้บ้..." มาราณียังด่าไม่ทันจบ สาวหมวยก็วางสายหนีไปซะก่อน
       
 
          มาราณีเก็บโทรศัพท์มือถือเข้าที่ จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป แต่ก็อดคิดถึงพี่จิตหราคนสวยไม่ได้ เธอรู้สึกสงสารอย่างจับจิตจับใจ เพราะผู้ช่วยสาวนางนี้ต้องเผชิญชะตากรรมและความรู้สึกผิดในสิ่งที่ตนไม่ได้ก่อ
 
ลิงค์นิยาย โอม แรงอาฆาต (เวอร์ชั่น 100 เปอร์เซ็นต์)
เว็บ MEB
เล่มที่ 1  https://www.mebmarket.com/ebook-160354-โอม-แรงอาฆาต-เล่มที่-1
เล่มที่ 2  https://www.mebmarket.com/ebook-160355-โอม-แรงอาฆาต-เล่มที่-2
เล่มที่ 3  https://www.mebmarket.com/ebook-160356-โอม-แรงอาฆาต-เล่มที่-3
 
เว็บ PINTOBOOK
เล่มที่ 1  https://pintobook.com/ebooks/60f6b8d7073b71001bbe8acb
เล่มที่ 2  https://pintobook.com/ebooks/60e4115f1c4428001c2ada2c
เล่มที่ 3  https://pintobook.com/ebooks/60f6c444cceb70001babd0b6
 
เว็บ HONGSAMUT
เล่มที่ 1  https://www.hongsamut.com/ebook/view?id=3140
เล่มที่ 2  https://www.hongsamut.com/ebook/view?id=3141
เล่มที่ 3  https://www.hongsamut.com/ebook/view?id=3142
 
 
สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2      

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณอ่านเรื่องนี้แล้วฟินมากแค่ไหน

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา