ประวัติศาสตร์จีนโดยสังเขป

1)  โจวเหวิน

♢ 1099 – 1050 BC : ราชวงศ์โจวตะวันตก
          ปฐมสมเด็จเจ้า  โจวเหวิน ได้รับแต่งตั้งอวยยศย้อนหลังให้โดยบุตรชาย หวังโจวอู่ หลังทำการล้มล้างราชวงศ์ชางสถาปนาราชวงศ์โจว
           เมื่อ โจวจี ปู่สวรรคต โจวเหวินรับสืบราชบังลังค์  แม้ว่าโจวอู่ โอรสของ โจวเหวิน เป็นผู้ที่ยกทัพมาปราบซางโจ้วหวังราชาแห่งราชวงศ์ชาง  และสถาปนา ราชวงศ์โจว แต่โจวเหวินก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สถาปนาก่อตั้งราชวงศ์โจว
          โจวเหวิน อายุ 96 ปี ครองราชย์ได้ 49 ปี ก็สวรรคต ขณะสู้รับกับแคว้นชาง โจวอู่ บุตรคนรองเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังค์ทำการล่มล้างราชวงศ์ชาง และสถาปนา ราชวงศ์โจว
           ครอบครัวของโจเหวินประกอบด้วยพระบรมชนกจีจีลิและพระบรมราชชนนี ไทรี, อัครมเหสีไท่ซื้อ มีโอรสคือ ปั๋วอี้เข่า, โจวอู่, โจวกงหวัง เป็นต้น
           ไท่ซื่อฮองเฮามเหสีของโจวเหวินเป็นผู้หญิงที่ได้รับความเคารพนับถือและ มีเกียรติอย่างสูงของจีนโบราณ    พระนางสืบเชื้อสายจากยู้ตี้ ปฐมกษัตริย์แห่งราช วงศ์เซี่ย มีโอรส 10 พระองค์ อาทิ พระเจ้าโจวอู่ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โจว และ พระอนุชาโจวกงหวัง

2)  โจวอู่

♢ 1046 – 1042 BC : ราชวงศ์โจวตะวันตก
           ปฐมสมเด็จเจ้าองค์แรกของราชวงศ์  หวังโจวอู่ หรือ จีฟา หรือ จิวบู๊อ๋อง บันทึกประวัติศาสตร์ระบุระยะเวลาของรัชสมัยของพระองค์ไม่แน่นอน แต่ส่วนใหญ่ เชื่อกันว่า    เริ่มต้นประมาณ 1046 ปีก่อนคริสตกาล และสิ้นสุดในอีก 3 ปีต่อมา ใน 1043 ปีก่อนคริสตกาล
           วีรบุรุษเกี่ยงไทกงหรือเจียงจื่อหยาช่วยเหลือจิวบุ้นอ๋องปราบทรราช ติ๋วอ้อง หรือ ชางโจ้วหวัง เป็นผลสำเร็จ         

           หวังโจวอู่โค่นราชวงศ์ซางลงแล้วตั้งราชวงศ์โจว และปกครองแผ่นดิน ด้วยระบบศักดินา คือ แยกการปกครองแผ่นดินออกเป็นมณฑลต่างๆ แล้วส่งเชื้อ พระวงศ์เป็นเจ้าผู้ครองนครรัฐหรือเป็นอ๋องไปปกครอง โดยพระองค์เป็นผู้ดูแล และมีอำนาจสูงสุดเช่นเดิม

           ครอบครัวหวังโจวอู่ ประกอบด้วยม พระบรมราชชนนีไทซื่อ,  อัครมเหสี ยีเจียง แห่งรัฐฉี เป็นบุตรีของราชาฉีเจียงชาง มีโอรสและองค์รัชทายาทคือโจว เฉิง

           หวังโจวอู่ไท้โจ้วทรงรับฉ่าย้งเป็นบุตรบุญธรรม ฉ่าสี่อ๋องทรงภูมิปัญญา ปรับปรุงกองทัพเสริมสร้างบารมีให้แก่ราชอาณาจักรโจวในยุคหลัง เมื่อหวังโจวอู่ สวรรคต องค์ชายโจวเฉิงเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังค์

3)  โจวเฉิง

♢ 1042 - 1021BC : ราชวงศ์โจวตะวันตก         
          สมเด็จเจ้าองค์ที่ 3  โจวเฉิง  ครอบครัวของพระองคฺประกอบด้วย พระบิดา โจวอู่และพระมารดาอี้เจียง, มเหสีของโจวเฉิงมีโอรสองค์รัชทายาทคือ โจวคัง
          โจวเฉินขึ้นปกครองแผ่นดิน ตั้งแต่เยาว์วัย ดังนั้น พระปิตุลา (อา) โจวกงหวัง พระอนุชาของโจวอู่ม จึงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

           เหล่าขุนนางเกรงว่ากองกำลังของราชวงศ์ชาง อาจกลับมาแข็งเมืองอีก ครั้ง ภายใต้การปกครองที่อ่อนแอของยุวกษัตริย์  โจวกงหวังจึงย้ายเมืองหลวง ไปทางทิศตะวันออกที่เมืองลั่วหยาง

            ต่อมา เกิดกบฏ 3 เชื้อพระวงศ์ โดยมีพระปิตุลา ไซซู, กวนซู และฮั้วซู เป็นผู้ก่อการกบฏ
           โจวกงหวัง ปราบปรามกบฏเชื้อพระวงศ์ทั้ง 3 คน ได้สำเร็จ ทำให้มีชื่อ เสียงในฐานะผู้สำเร็จราชการแผ่นดินที่มีความสามารถและจงรักภักดีต่อพระนัดดา
           โจวเฉิงและโจวกงหวังดูแลทัพทหารรักษาชายแดน โดยมีชัยต่อชนเผ่าป่า เถื่อนหลายเผ่าต่างๆ   สร้างความที่มั่นคงให้กับราชวงศ์โจวทางภาคเหนือและภาค ตะวันออกของจีน
           โจวเฉิง ครองราชย์ได้ 21 ปี ทรงเสด็จสวรรคต องค์ชายโจวคังสืบทอด ราชบัลลังค์

4)  โจวคัง

♢ 1020 - 996 BC : ราชวงศ์โจวตะวันตก      
           สมเด็จเจ้าองค์ที่ 4  โจวคัง ทรงครองราชย์ได้ 24 ปี ทรงเสด็จสวรรคต องค์ชายโจวเจาสืบทอดราชบัลลังค์

5)  โจวเจา

♢ 995 - 977 BC : ราชวงศ์โจวตะวันตก  
           สมเด็จเจ้าองค์ที่ 5  โจวเจา เมื่อขึ้นครองราชและได้ทรงทำตามนโยบาย ปกครองของพระบิดาโจวเฉิง และขยายอาณาเขตของแคว้นโจวในภาคเหนือกับ ตะวันตก และปราบปรามการก่อจลาจลในภาคตะวันออก ทำให้ราชวงศ์โจวเจริญ รุ่งเรืองขยายอาณาเขไปทั่วที่ราบลุ่มภาคกลางของจีน

          โจวเจาหันไปทำสงครามขยายอาณาเขตไปทางภาคใต้ของจีนและถูกปลง พระชนษ์ในขณะทำศึก ทำให้กองทัพต้องหนัถอยไปทางทิศใต้ของแม่น้ำฮัน และ สร้างค่ายทหารชายแดนไว้ทางภาคใต้ เพื่อป้องกันการถูกรุกรานจากรัฐอื่นๆ

          โจวเจา ครองราชย์ได้ 18 ปี ทรงเสด็จวรรคต องค์ชายโจวมู่สืบทอดราช บัลลังก์

6)  โจวมู่

♢ 976 - 922 BC : ราชวงศ์โจวตะวันตก  
           สมเด็จเจ้าองค์ที่ 6  โจวมู่ ทรงครองราชย์ได้ 54 ปี มีโอรส คือ โจวก้ง, โจวเซี่ยว เป็นต้น  โจวมู่ทรงเสด็จสวรรคต องค์ชายโจวกังสืบทอดราชบัลลังก์

7)  โจวกัง

♢ 922 - 900 BC : ราชวงศ์โจวตะวันตก  
           สมเด็จเจ้าองค์ที่ 7  โจวกัง ทรงครองราชย์ได้ 22 ปี มีองค์รัชทาบาท คือ โจวอวี่ เป็น เมื่อโจวกังทรงเสด็จสวรรคต องค์ชายโจวอี้ขึ้นสืบทอดราชบัลลังก์

8)  โจวอี้

♢ 899 - 892 BC :  ราชวงศ์โจวตะวันตก         
           สมเด็จเจ้าองค์ที่ 8  โจวอี้  ทรงครองราชย์ได้ 7 ปี ก็เสด็จสวรรคต จากนั้น โจวเซี่ยว พระญาติของพระองค์ขึ้นสืบทอดราชบัลลังค์

9)  โจวเซี่ยว

♢ 891- 886 BC : ราชวงศ์โจวตะวันตก         
           สมเด็จเจ้าองค์ที่ 9  โจวเซี่ยว เป็นโอรสของสมเด็จเจ้าโจวมู่ รัชกาลที่ 6 และเป็นพระอนุชาของ สมเด็จเจ้าโจวก้ง รัชกาลที่ 7
            โจวเซี่ยว ทรงครองราชย์ได้ 5 ปี ก็เสด็จสวรรคต  จากนั่ล้น โจวอี๋ พระญาติของพระองค์ขึ้นสืบทอดราชบัลลังค์

10)  โจวอี๋

♢ 899 - 892 BC : ราชวงศ์โจวตะวันตก   
              สมเด็จเจ้าองค์ที่ 10  โจวอี๋ ชื่อเดิม จีเสีย เป็นโอรสของโจวอี้ รัชกาลที่ 8   โจวอี๋ ทนงครองราชย์ได้ 7 ปี ก็เสด็จสวรรคต

11)  โจวลี่

♢ 877 - 841 BC : ราชวงศ์โจวตะวันตก   
            สมเด็จเจ้าองค์ที่ 11  โจวลี่  ทรงเป็นผู้ปกครองที่ฉ้อฉลและกักขฬะมาก โจวลี่นั้นสั่งขึ้นภาษี และทรงห้ามสามัญชนไม่ให้ใช้ประโยชน์จากป่าและแม่น้ำในที่ สาธารณะที่ถือเป็นของพระองค์และผู้มีคุณความดีต่อราชสำนักโจว

            หวังโจวลี่ทรงตั้งกฎหมายให้อำนาจพระองค์เองสามารถสั่งประหารผู้คน ที่พูดจาขัดพระทัยได้ ซึ่งสร้างความ เดือดร้อนให้แก่ราษฎรมากมาย          

            842 ปีก่อนคริสตกาล การปกครองแบบกดขี่ข่มเหงประชาชนของโจวลี่ นั้น ในไม่ช้าก็ทำให้เหล่าทหารและชนชั้นรากหญ้าทั่วประเทศลุกฮือขึ้นต่อต้าน
           หวังโจวลี่ทรงครองราชย์ได้ 36 ปี ก็ถูกประชาชนทั้งแผ่นดินขับไล่ไปอยู่ ในสถานที่กันดารใกล้กับเมืองหลินเฝินในปัจจุบัน  ส่วนองค์รัชทายาทนั้นถูก เสนาบดีผู้หนึ่งนำตัวหลบหนีไปซ่อนเร้นและหายสาปสูญไป  ทำให้ไม่มีผู้สืบราช บัลลังค์ปกครองแผ่นดิน  เหล่าขุนนางจึงต้องตั้งขุนนางผู้หนึ่งขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทน ที่มีชื่อเรียกกันว่า กังเหอ